ฝรั่งเศสวางแผนเป็นประเทศแรกใช้ AI กับระบบกล้องวงจรปิดในโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส!

Loading

    ณ ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การใช้เทคโนโลยี AI กำลังมาแรงอย่างมาก โดยล่าสุดฝรั่งเศสเองก็มีแผนจะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับระบบกล้องวงจรปิดในงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกปี 2024 ที่จะจัดขึ้นที่ปารีส   อ้างอิงจาก The Register พบว่าล่าสุดฝรั่งเศสได้ปรับใช้มาตรา 7 ของกฎหมายสำหรับกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกปี 2024 เพื่ออนุญาตให้ใช้การวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับวิดีโอจากกล้องวงจรปิดและกล้องโดรน   ตัวระบบจะใช้ในการตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติในที่สาธารณะ เช่น พฤติกรรมที่ผิดแผกไป เหตุการณ์ที่เหมือนมีการวางแผนเอาไว้ หรือเหตุการณ์ที่จำนวนคนล้น เป็นต้น ซึ่งหากแผนการนี้ได้รับการอนุมัติก็จะทำให้ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ดังกล่าว   อย่างไรก็ตามก็มีผู้ไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้เช่นกัน โดยมีองค์กรภาคประชาสังคม 38 องค์กรที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีดังกล่าวและได้ส่งจดหมายเปิดผนึก มีเนื้อหาว่า มาตรการสอดแนมนั้นละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และยังเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างไม่อาจยอมรับได้ ไม่ว่าจะเป็น สิทธิในความเป็นส่วนตัว, อิสระในการรวมกลุ่ม และสิทธิในการไม่เลือกปฏิบัติ   “หากจุดประสงค์ของอัลกอริทึม AI ของกล้องทำเพื่อตรวจจับเหตุการณ์น่าสงสัยในพื้นที่สาธารณะ พวกเขาก็จำเป็นที่จะบันทึกภาพและวิเคราะห์ลักษณะทางสรีรวิทยาและพฤติกรรมของบุคคลในพื้นที่เหล่านี้ เช่น ตำแหน่งร่างกาย, ท่าเดิน, การเคลื่อนไหว หรือรูปลักษณ์ภายใน” เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกระบุ       อ้างอิง Techspot  …

ฝรั่งเศส ร่างกฎหมายห้ามพ่อ-แม่ โพสต์รูปลูกบนโซเชียลมีเดีย หากเด็กไม่ยินยอม เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว

Loading

    ฝ่ายนิติบัญญัติของฝรั่งเศส อนุมัติกฎหมายใหม่เพื่อช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของเด็กบนอินเทอร์เน็ต ตามกฎหมายแล้ว และผู้ปกครองในประเทศจะถูกห้ามไม่ให้โพสต์หรือแชร์ภาพถ่ายของลูก ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต   ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกเสนอโดย บรูโน สตูเดอร์ (Bruno Studer) นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (MP) และผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์จากสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส   เนื้อความในกฎหมาย ระบุว่า ทั้งพ่อและแม่ต้องรับผิดชอบต่อสิทธิในรูปภาพของเด็ก หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการโพสต์รูป ศาลครอบครัวมีสิทธิ์เป็นผู้ตัดสินหรือสั่งห้ามโพสต์ทั้งคู่ หากภาพดังกล่าว “ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อศักดิ์ศรีหรือศีลธรรมอันดีของเด็ก” โดยการตัดสินใจว่าจะโพสต์ภาพลูกลงในสื่อออนไลน์หรือไม่ จะต้องให้เด็กมีส่วนร่วมด้วย โดยพิจารณาจากอายุและระดับวุฒิภาวะของเด็กคนนั้น ๆ   และหากผู้ปกครอง ยังฝ่าฝืนโพสต์รูปที่อาจเป็นปัญหาต่อจิตใจของเด็กอย่างร้ายแรงในอนาคต ศาลสามารถเพิกถอนอำนาจและสิทธิของพ่อแม่ได้ทันที   สภาสมาคมเพื่อสิทธิเด็กแห่งฝรั่งเศส อ้างถึงการแจ้งเตือนจากยูโรโพล (Europol) และอินเตอร์โพล (Interpo)l เกี่ยวกับการแพร่กระจายของเนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางออนไลน์ และการแพร่หลายของเนื้อหาที่ผลิตขึ้นเองโดยเยาวชนเองหรือคนรอบข้าง   อันจา สตีวิต (Anja Stevic) นักวิจัยด้านการสื่อสารแห่งมหาวิทยาลัยเวียนนา เชื่อว่าจำเป็นต้องปกป้องเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและยังไม่มีเสียงพูดต่อต้านภาพที่พ่อแม่แชร์ทางออนไลน์   โดยร่างกฎหมายนี้ถือเป็นครั้งแรกของโลกและได้รับความเห็นชอบจากนักจิตวิทยาเด็กและผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดียด้วย          …

6 เหตุการณ์นิวเคลียร์รั่วไหลร้ายแรงที่สุดในโลก

Loading

    มองย้อนรอย 6 เหตุการณ์นิวเคลียร์รั่วไหลที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา พบทั้งในอดีตสหภาพโซเวียต, สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ และญี่ปุ่น     โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เทคโนโลยีการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่มีข้อดีหลายอย่างและถูกใช้งานในหลายประเทศ อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีนี้เคยเกิดข้อผิดพลาดและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในอดีต   หลักการทำงานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โดยทั่วไปใช้พลังงานนิวเคลียร์ที่สร้างความร้อนมหาศาลไปทำให้น้ำเปลี่ยนสถานะเป็นไอและหมุนกังหันผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาใหม่ ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำก็สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้   เหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้เกิดการรั่วไหลของไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมดในโลกนี้ TNN Tech ขอหยิบยกมานำเสนอทั้งหมด 6 เหตุการณ์ด้วยกัน ได้แก่   ปี 1986 นิคมเชอร์โนบิล สหภาพโซเวียต (ปัจจุบันอยู่ในแคว้นเคียฟ, ยูเครน) สารที่รั่วไหลซีเซียม-137 ผู้เสียชีวิต 4,000 คน หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลได้ถูกปิดจนถึงปัจจุบัน โดยเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ผู้ที่เดินทางไปเยี่ยมชมส่วนใหญ่เป็นนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน   ปี 1957 คัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ สารที่รั่วไหลไอโอดีน-131 ผู้เสียชีวิต 240 คน   ปี 1957 คิสตีม สหภาพโซเวียต…

เรื่องต้องรู้? เมื่อประกาศใช้ ก.ม.ป้องกันโจรไซเบอร์!!

Loading

    ประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว!! สำหรับ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566    หลังรัฐบาลเร่งตรา ก.ม.ฉบับนี้ออกมาใช้ให้เร่งด่วนที่สุด โดยหวัง “สกัดและเด็ดหัว” โจรไซเบอร์ ที่สร้างความเดือดร้อนและเสียหายทางทรัพย์สินให้กับประชาชนอย่างมาก!!   หลายคนอาจนึกไม่ออกว่า คนไทยตกเป็นเหยื่อมากแค่ไหน? จากสถิติของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้เปิดรับแจ้งความออนไลน์ ผ่าน https://thaipoliceonline.com/ ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียหายแจ้งความเป็นคดีสูงถึง 2.1 แสนคดี สร้างมูลค่าความเสียหายกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท!!     หรือ เรียกง่ายๆ ว่า มีคนแจ้งความถึงวันละเกือบ 600 คดี!! ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า รองลงมาคือ หลอกให้โอนเงิน!!   ขณะที่การอายัดบัญชีของทางเจ้าหน้าที่ มีการขออายัด 50,649  เคส จำนวน 68,870 บัญชี  ยอดเงิน 6,723 ล้านบาท แต่สามารถอายัดได้ทัน 445 ล้านบาท เท่านั้น!?!   สิ่งที่จะบรรเทาความเสียหายให้ประชาชนได้ คือ ทำอย่างไรจะสามารถอายัดยัญชีได้เร็วที่สุด ก่อนที่เงินจะถูกโอนออกจากบัญชีไป เพราะหากเงิน “ลอย” ออกจากบัญชีของเราไปแล้ว การจะได้เงินคืนจึงเป็นเรื่องยาก!!   จึงได้มีการออก ก.ม.ฉบับนี้ เพื่อให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพมากขึ้น…

ป้องกันข้อมูลรั่วไหล ‘กรมบัญชีกลาง’ เริ่มใช้ ‘ระบบ e-GP’ เชื่อมข้อมูลผ่านบล็อกเชน 3 เม.ย.นี้

Loading

    กรมบัญชีกลาง พัฒนาระบบ e-GP เชื่อมโยงข้อมูลผ่านบล็อกเชน เพิ่มประสิทธิภาพ และป้องกันความเสี่ยงในการรั่วไหลของข้อมูล เริ่ม 3 เมษายน 2566   นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ได้ให้ความสำคัญและผลักดัน การนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการทำงานของ กรมบัญชีกลาง มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน   ประกอบกับปริมาณผู้เข้าใช้งานระบบในปัจจุบัน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมบัญชีกลาง จึงได้พัฒนา ระบบ e-GP โดยนำ เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) มาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในระบบ e-GP   ทั้งนี้ เทคโนโลยี Blockchain จะช่วยจัดเก็บข้อมูลราคา วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าถึงข้อมูลราคาได้ หากยังไม่ถึงเวลาที่กำหนด อีกทั้งลดระยะเวลาการเสนอราคา จากเดิม 8 ชั่วโมง เหลือ 3 ชั่วโมง และยกเลิกขั้นตอนการซื้อเอกสารประกวดราคาฯ ก่อนการเสนอราคา…

เสียชีวิต 6 ราย เหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน

Loading

    เหตุระเบิดฆ่าตัวตายใกล้กระทรวงการต่างประเทศของอัฟกานิสถานคร่าชีวิตพลเรือน 6 ​​รายและบาดเจ็บอีกหลายคน   เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2566 กล่าวว่า อับดุล นาฟี ตากอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอัฟกานิสถาน ทวีตข้อความรายงานเหตุโจมตีละแวกกระทรวงฯ ซึ่งเป็นการระเบิดฆ่าตัวตาย คร่าชีวิตพลเรือนไป 6 รายและได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน   ก่อนหน้านี้ มือระเบิดถูกพบตัวใกล้บริเวณเกิดเหตุและจุดระเบิดทันทีที่กองกำลังอัฟกานิสถานพยายามเข้าตรวจค้น จนเป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว   องค์กรพัฒนาเอกชนฉุกเฉินของอิตาลี ซึ่งดำเนินการโรงพยาบาลในกรุงคาบูล ยืนยันว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 คน   เหตุระเบิดเกิดขึ้นที่หน้าศูนย์ธุรกิจใกล้กับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งทางการคาดว่ามือระเบิดมีเป้าหมายที่จะเข้าไประเบิดตัวเองในกระทรวงฯ   การโจมตีครั้งล่าสุดถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึง 3 เดือน โดยมุ่งเป้ากระทรวงต่างประเทศในกรุงคาบูล และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มต้นเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมในอัฟกานิสถาน             —————————————————————————————————————————————— ที่มา : …