ตำรวจยูเครนตรวจค้นตัวชายคนหนึ่งขณะหยุดรถต้องสงสัยคันหนึ่ง ในกรุงเคียฟของยูเครน เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ (รอยเตอร์)
เคียฟยกเลิกเคอร์ฟิว รัสเซียอ้างยึดได้ 2 เมือง ยูเครนเผยพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 352 ราย
สถานการณ์สู้รบในยูเครนยืดเยื้อเป็นวันที่ 5 แล้ว เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยยังคงมีการปะทะกันของกำลังทหารรัสเซียและยูเครน ซึ่งสำนักข่าวอิสเตอร์แฟกซ์ อ้างกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า กองกำลังรัสเซียได้ยึดเมืองเบอร์เดียนสค์ และเมืองอีเนอร์โรดาร์ ตั้งอยู่ในแคว้นซาโปริฌเฌีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนไว้ได้ รวมถึงพื้นที่โดยรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริฌเฌียด้วย
หญิงชาวยูเครนเดินบนถนนที่แทบจะร้างผู้คนในกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน หลังจากมีการยกเลิกเคอร์ฟิวในกรุงเคียฟเมื่อเวลา 08.00 น. (รอยเตอร์)
ขณะที่สำนักงานบริการการสื่อสารพิเศษและการปกป้องข้อมูลของยูเครนระบุว่า มีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งในกรุงเคียฟและเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง หลังจากเงียบสงบไปได้ไม่กี่ชั่วโมง และมีรายงานอาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในเมืองเชอร์นิกอฟ ทางตอนเหนือของยูเครน เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นหลังจากถูกยิงโจมตีด้วยขีปนาวุธ
ด้านกองบัญชาการภาคพื้นดินของยูเครนรายงานว่า เมืองซิตโทเมีย ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธเช่นกันในช่วงคืนที่ผ่านมา
รถทหารของยูเครนตระเวนในกรุงเคียฟ (รอยเตอร์)
ขณะที่เสนาธิการทหารบกของกองทัพยูเครน เปิดเผยว่า ทหารรัสเซียชะลอจังหวะการบุกยูเครนลง แต่ยังคงพยายามที่จะยึดบางพื้นที่ให้สำเร็จอยู่
อย่างไรก็ดี ในกรุงเคียฟได้ประกาศยกเลิกภาวะเคอร์ฟิวเมื่อเวลา 08.00 น.ของเช้าวันเดียวกัน ทำให้ประชาชนออกจากบ้านและที่หลบภัยได้อย่างอิสระ แต่ส่วนใหญ่ยังคงเฝ้าติดตามข่าวสารสถานการณ์จากโทรทัศน์และสื่อต่างๆ ขณะที่ร้านค้ากลับมาเปิดทำการได้ เช่นเดียวกับระบบขนส่งมวลชนเริ่มกลับมาให้บริการ แม้ว่ารถไฟใต้ดินจะบริการขบวนรถน้อยลงกว่าปกติ
ท่ามกลางการเตือนภัยของเจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟว่า สงครามยังห่างไกลจากคำว่าจบสิ้น การสู้รบบนท้องถนนยังดำเนินต่อไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ โดยเคอร์ฟิวจะเริ่มขึ้นอีกครั้งเวลา 22.00-07.00 น. แต่ขอให้ประชาชนอย่าออกจากบ้านและที่หลบภัยในช่วงกลางวันเว้นแต่มีความจำเป็น
ด้านกระทรวงสาธารณสุขของยูเครน เผยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นับตั้งแต่กองกำลังรัสเซียเปิดฉากบุกโจมตี มีพลเรือนยูเครนถูกสังหารเสียชีวิตแล้ว 352 ราย รวมถึงเด็ก 14 ราย และยังทำให้ได้รับบาดเจ็บ 1,684 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กด้วย 116 คน
ขณะที่นางมิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แถลงต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ว่า นับจากรัสเซียทำสงครามรุกรานยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีพลเรือนในยูเครนถูกสังหารเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 102 ราย ได้รับบาดเจ็บ 304 ราย แต่ตนเกรงว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก โดยพลเรือนที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกสังหารโดยอาวุธระเบิดที่ก่อผลกระทบเป็นวงกว้าง รวมถึงการยิงโจมตีด้วยปืนใหญ่และระบบจรวดต่อต้านหลายหัวรบ และการโจมตีทางอากาศ ขณะที่มีชาวยูเครนที่อพยพหนีภัยสู้รบออกจากยูเครนแล้วราว 422,000 ราย และอีกจำนวนมากที่กลายเป็นผู้พลัดถิ่นในประเทศตัวเอง
ที่มา : มติชนออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 28 ก.พ.65
Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_3207719