นายโรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษผู้ดำเนินการสอบสวนกรณีที่เชื่อว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2016 ได้ประกาศตั้งข้อหาดำเนินคดีกับชาวรัสเซีย 13 คน ซึ่งมีส่วนพัวพันกับคดีดังกล่าวแล้ว
เอกสารแจ้งข้อหาระบุว่า ชาวรัสเซียกลุ่มนี้พยายามสร้างความปั่นป่วนในแวดวงการเมืองของสหรัฐฯ โดยใช้ข้อมูลปลอมแสดงตัวเป็นชาวอเมริกันเข้ามาเปิดบัญชีและทำธุรกรรมทางการเงินจำนวนมาก เพื่อซื้อพื้นที่ลงโฆษณาทางการเมืองเป็นเงินหลายพันดอลลาร์สหรัฐฯในแต่ละเดือน และซื้อพื้นที่ใช้งานเซิร์ฟเวอร์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์สหรัฐฯ เพื่อปกปิดความเกี่ยวข้องที่มีกับรัสเซียอีกด้วย
ทางการเชื่อว่าชาวรัสเซียกลุ่มนี้เคยปลอมแปลงตนเป็นชาวอเมริกัน และเดินทางเข้าสหรัฐฯมาเพื่อเตรียมการเรื่องแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2014 โดยอยู่เบื้องหลังการชุมนุมทางการเมืองในสหรัฐฯหลายครั้ง และโพสต์ข้อความเรื่องการเมืองในสื่อสังคมออนไลน์โดยแอบอ้างว่าเป็นชาวอเมริกัน ทั้งยังส่งเสริมการเผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความเสียหายแก่นางฮิลลารี คลินตัน โดยใช้เงินทุนในการนี้ถึงเดือนละราว 1.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 40 ล้านบาท)
นอกจากผู้ที่ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดี 13 รายแล้ว ทางการสหรัฐฯยังระบุว่ามีบริษัทของรัสเซียอีก 3 แห่งพัวพันกับกรณีดังกล่าวด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบริษัท Internet Research Agency ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งมีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในการสร้างความแตกแยกไม่ลงรอยในระบบการเมืองอเมริกัน ซึ่งรวมถึงการเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 ด้วย
อย่างไรก็ตาม นายร็อด โรเซนสไตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงว่า ไม่พบว่ามีชาวอเมริกันคนใดรู้เห็นเป็นใจหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยเจตนา และย้ำว่าแผนการแทรกแซงดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ชนะแต่อย่างใด
ผู้นำสหรัฐฯได้ทวีตข้อความหลังรับทราบข่าวการแจ้งข้อหาชาวรัสเซีย 13 รายว่า เรื่องนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าการรณรงค์หาเสียงของเขาไม่มีสิ่งใดผิดกฎหมาย เพราะผู้ต้องหาชาวรัสเซียเริ่มวางแผนเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งมานานก่อนที่เขาจะลงสมัครด้วยซ้ำ และแผนการนี้ก็ไม่ได้กระทบต่อผลการเลือกตั้งแต่อย่างใด จึงพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ได้ร่วมมือกับรัสเซีย
ถึงกระนั้นก็ตาม นางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแย้งว่า เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่คนเพียง 13 คน สามารถเอาชนะมาตรการป้องกันความปลอดภัยมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ รวมทั้งหน่วยข่าวกรองและเทคโนโลยีล้ำสมัยของสหรัฐฯได้
ส่วนนายเยฟเกนี ปริโกซิน เจ้าของฉายา “หัวหน้าพ่อครัวของปูติน” หนึ่งในผู้ต้องหาชาวรัสเซีย 13 รายบอกว่า “คนอเมริกันนั้นน่าทึ่งมาก พวกเขาเห็นในสิ่งที่อยากจะเห็น ผมนับถือพวกเขาจริง ๆ และไม่เสียใจที่มีชื่อเป็นผู้ต้องหาด้วย ถ้าพวกเขาอยากจะเห็นปีศาจ ก็ให้เขาเห็นไป”
————————————————————————-
ที่มา : BBC Thai / 17 กุมภาพันธ์ 2018
Link : http://www.bbc.com/thai/international-43095198?ocid=wsthai.chat-apps.in-app-msg.line.trial.link1_.auin