- งานวิจัยล่าสุดชี้ อาวุธปืนแซงหน้าอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นมาเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเยาวชนชาวอเมริกันในปี 2020
- การเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนของกลุ่มเยาวชาวอเมริกัน มาจากการฆ่าตัวตายมากกว่าครึ่ง รองลงมาคือการถูกฆาตกรรม
ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯพบว่า เยาวชนชาวอเมริกันกว่า 4,300 คนเสียชีวิตจากการถูกอาวุธปืนยิงในปี 2020 จากจำนวนผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนทั้งประเทศ 45,222 ศพ และในขณะที่การฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืนจะครองสัดส่วนที่สูงสุดตลอดมา
แต่การถูกฆาตกรรมจากอาวุธปืนก็เพิ่มขึ้นมาเป็นสัดส่วนหลักอย่างน่าตกใจ โดยในปี 2020 มีชาวอเมริกันทุกช่วงวัยเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืน 24,292 ศพ คิดเป็น 54 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ถูกฆาตกรรมด้วยอาวุธปืน 19,384 ศพ คิดเป็น 43 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการตายด้วยอาวุธปืนอื่นๆ เช่นอุบัติเหตุ การระงับเหตุโดยเจ้าหน้าที่ หรือโดยไม่ตั้งใจรวมอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์ โดยปัจจุบันพลเมืองชาวอเมริกันครอบครองอาวุธปืนมากกว่า 390 ล้านกระบอก
จากผลการวิจัยที่เพิ่งถูกตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ นิวอิงแลนด์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า การเสียชีวิตในกลุ่มประชากรชาวอเมริกันอายุระหว่าง 1 -19 ปีที่เพิ่มสูงขึ้น
เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดรวมการฆาตกรรมโดยอาวุธปืนทั่วประเทศเพิ่มขึ้นมาเป็น 33.4 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกัน อัตราการฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืนในสหรัฐฯก็เพิ่มขึ้นมา 1.1 เปอร์เซ็นต์
สำหรับภาพรวมของอัตราการเสียชีวิตจากอาวุธปืนรวมทุกสาเหตุ ทั้งการฆ่าตัวตาย การฆาตกรรม ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนาในหมู่เด็กและวัยรุ่นเพิ่มขึ้นมา 29.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาถึงกว่า 2 เท่าจากประชากรทั้งหมด จนขึ้นนำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของกลุ่มอายุดังกล่าว
ซึ่งทีมวิจัยระบุว่าข้อมูลที่ออกมาเป็นตัวชี้วัดว่า ทางการสหรัฐฯ ล้มเหลวในการปกป้องเยาวชนจากการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้
สำหรับภาพรวมอัตราการเสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับอาวุธปืนในสหรัฐฯต่อประชากร 100,000 คน เพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มผู้ชาย และผู้หญิง รวมทั้งในกลุ่มประชากรชาติพันธุ์ ทั้งในปี 2019 และปี 2020 โดยเพิ่มขึ้นสูงสุดในกลุ่มชาวอเมริกันผิวดำ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเสียชีวิตจากอาวุธปืนของกลุ่มวัยรุ่นชาวอเมริกัน อยู่ในอันดับที่ 2 รองจากการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ลดลงต่อเนื่อง จนถูกแซงหน้าด้วยอาวุธปืน
โดยในปี 2020 มีชาวอเมริกันอายุต่ำกว่า 19 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ราว 3,900 ราย ขณะที่การเสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาด และถูกวางยาในช่วงปี 2019-2020 เพิ่มขึ้นถึง 83.6 เปอร์เซ็นต์ และได้ขยับขึ้นมาเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 3 ของกลุ่มวัยรุ่นชาวอเมริกันแล้ว
ทั้งนี้ จากงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ถูกตีพิมพ์ไปเมื่อต้นเดือนเมษายน พบว่า มีวัยรุ่นชาวอเมริกันที่เสียชีวิตจากการใช้ยาเสพติดเกินขนาด 954 ศพในปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2019 ที่อยู่ที่ 492 ศพ
ขณะที่การใช้อาวุธปืนก่อเหตุความรุนแรงในสหรัฐฯ เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ช่วงต้นปี 2020 เป็นต้นมา
โดยงานวิจัยระบุว่า ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้แน่ชัดว่าโควิด-19 เกี่ยวข้องอย่างไรกับตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้ และยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการเสียชีวิตจากอาวุธปืนจะลดลงมาเหมือนเดิม หลังจากผ่านพ้นการระบาดของโรคนี้ไปหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ แอนแนลส ออฟ อินเทอร์นัล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่พบว่า ประชากรวัยผู้ใหญ่ของสหรัฐฯราว 7.5 ล้านคน หรือไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ กลายมาเป็นผู้ครอบครองอาวุธปืนเป็นครั้งแรกในช่วงเดือนมกราคมจนถึง เมษายนปี 2021 ในช่วงที่พบการระบาดของโควิด-19 ด้วย
ส่งผลให้ตัวเลขประชาชนที่ครอบครองอาวุธปืนในครัวเรือนเพิ่มมาเป็น 11 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นเด็กเยาวชนถึง 5 ล้านคนที่อาจจะเข้าถึงอาวุธปืนได้ง่ายขึ้น
ที่ผ่านมา สหรัฐฯยังคงไม่มีท่าทีที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาเรื่องการครอบครองอาวุธปืน และยังคงเห็นข่าวคราวของเด็กวัยรุ่นที่อัดอั้นตันใจก่อเหตุกราดยิงภายในโรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง
ข้อมูลที่ชี้ชัดเกี่ยวกับสาเหตุการตายของกลุ่มเยาวชนจากอาวุธปืนที่พุ่งสูงในครั้งนี้ น่าจะดึงความสนใจของคนในรัฐบาลสหรัฐฯได้บ้างไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับว่าเห็นแล้วจะเพิกเฉย หรือจะรีบดำเนินการแก้ไข เพื่อปกป้องเยาวชนจากเหตุความรุนแรงและลดจำนวนการเสียชีวิตที่ป้องกันได้ให้เร็วที่สุดได้อย่างไร.
ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล
ที่มา : บีบีซี , เอบีซีนิวส์ , พิวรีเสิรท์
———————————————————————————————————————————————————————–
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 27 เม.ย.65
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2377812