โดรนร่วง 20 ลำ! รัสเซียถล่มยูเครนต่อเนื่อง-ยึดพื้นที่เพิ่ม 2 เขต

Loading

  กลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์กลับลำประกาศจะปักหลักต่อสู้ในยูเครนต่อไป หลังรัสเซียให้สัญญาว่าจะจัดส่งยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นให้ ขณะที่รัสเซียอ้างว่ายิงทำลายโดรนของยูเครนได้มากกว่า 20 ลำ และยึดพื้นที่ในเมืองบัคห์มุตได้เพิ่มเติม   เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2566 ตามเวลาท้องถิ่น โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับปฏิบัติการสู้รบในยูเครน โดยระบุว่ารัสเซียสามารถยึดพื้นที่ในเมืองบัคห์มุตเพิ่มอีกได้ 2 เขต คือ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และ ตะวันตก   นอกจากนี้กองทัพอากาศของรัสเซียซึ่งสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีในครั้งนี้ ยังสร้างความสูญเสียแก่ยูเครน โดยทำให้ทหารยูเครนและทหารรับจ้างเสียชีวิตมากกว่า 340 นาย รถหุ้มเกราะเสียหาย 2 คัน พร้อมยานพาหนะ 8 คัน ในขณะที่ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน ได้ยิงทำลายอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนของยูเครน ที่บินอยู่เหนือทะเลดำจำนวน 22 ลำ   “วากเนอร์” กลับลำปักหลักสู้ในยูเครนต่อ   ขณะที่ เยฟเกนี พริโกซิน ผู้ก่อตั้งกลุ่มวากเนอร์ เปิดเผยผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า กลุ่มวากเนอร์ได้รับคำมั่นสัญญาว่าจะได้รับมอบอาวุธและเครื่องกระสุนมากเท่าที่จำเป็นต้องใช้ ในปฏิบัติการเพื่อยึดครองบัคห์มุต รวมถึงป้องกันไม่ให้ถูกข้าศึกตัดเส้นทางลำเลียงอาวุธและสิ่งจำเป็น     ท่าทีดังกล่าวเปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้ ที่เขาขู่จะถอนกำลังจากการสู้รบในบัคห์มุต เนื่องจากรัสเซียไม่ยอมส่งยุทโธปกรณ์ให้อย่างเพียงพอ…

รัสเซียเดือด ยิงมิสไซล์ ส่งโดรนถล่มยูเครน หลังกล่าวหาพยายามลอบสังหารปูติน

Loading

    รัสเซียระดมยิงมิสไซล์ และส่งโดรนพิฆาตเกือบ 40 ลำโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในยูเครน ไม่กี่ชั่วโมงหลังกล่าวหารัฐบาลยูเครนพยายามลอบสังหารปูติน ด้วยการส่งโดรนเข้ามาในวังเครมลิน   เมื่อ 4 พ.ค. 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน รัสเซียระดมยิงมิสไซล์และส่งโดรนพิฆาตโจมตีหลายเมืองของยูเครน ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย หรือวังเครมลิน ในกรุงมอสโก ได้ออกมากล่าวหารัฐบาลยูเครนว่า กำลังพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ด้วยการส่งโดรนกามิกาเซ่เข้ามาในเขตวังเครมลิน แต่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของรัสเซียสามารถยิงสกัดโดรนลำนี้ได้ทัน จนร่วงตกในเขตพื้นที่ของวังเครมลิน ขณะที่ประธานาธิบดีปูตินไม่ได้อยู่ในวังเครมลินช่วงเวลาดังกล่าว   มีรายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินสั่งให้ส่งโดรนพิฆาต รวมทั้งโดรน ‘ชาเฮด’ จากอิหร่าน ติดระเบิด 24 ลำมาโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวง และยังส่งโดรนพิฆาตอีก 15 ลำไปโจมตีเมืองท่าโอเดสซา และซาปอริชเชีย ทางภาคใต้ของยูเครน แต่กองทัพยูเครนสามารถใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศสกัดโดรนเหล่านี้ของรัสเซียได้เป็นส่วนใหญ่ จนทำให้ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวมาถึงกรุงเคียฟ โอเดสซา และซาปอริชเชีย   นอกจากนั้น ยังมีมิสไซล์และโดรนจากรัสเซียมาโจมตีเมืองนิโคปอล ทางภาคใต้ของยูเครนด้วย และทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 11 หลัง และมีชายวัย 32 ปี…

เอาแล้ว!! ‘รัสเซีย’ แถลง ‘ยูเครน’ พยายามสังหาร ‘ปูติน’ โดยใช้โดรนโจมตีวังเครมลิน แต่ล้มเหลว

Loading

  รัสเซียกล่าวหายูเครนในวันพุธ (3 พ.ค.) ว่า ใช้โดรนบุกโจมตีทำเนียบวังเครมลินในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ในความพยายามที่จะสังหารประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ทว่าประสบความล้มเหลว พร้อมกับประกาศสงวนสิทธิที่จะตอบโต้เอาคืนในสถานที่และวันเวลาที่เห็นเหมาะสม   ทางด้านเคียฟได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีบทบาทใดๆ ในเหตุการณ์ตามที่รายงานกันนี้ โดยที่ มีคาอิโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน แถลงตอบโต้ว่า นี่เป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่าเครมลินกำลังวางแผนเปิดการโจมตีใหญ่ครั้งใหม่ต่อยูเครน   ตามคำแถลงของเครมลิน มีอากาศยานไร้นักบิน (โดรน) จำนวน 2 ลำ ถูกใช้เพื่อเข้าโจมตีที่พักของปูติน ภายในวังเครมลินซึ่งมีกำแพงล้อมแน่นหนา ทว่าโดรนทั้ง 2 ลำนี้ได้ถูกทำลายด้วยมาตรการป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์ของฝ่ายรัสเซีย   เครมลินบอกด้วยว่า ตนสงวนสิทธิที่จะทำการตอบโต้เอาคืน ซึ่งรอยเตอร์บอกว่าเป็นคำกล่าวที่บ่งชี้ว่า มอสโกอาจใช้เหตุการณ์ที่อ้างว่าเกิดขึ้นคราวนี้เป็นเหตุผลความชอบธรรมในการขยายสงครามที่ทำกับยูเครนให้ยกระดับและบานปลายออกไปอีก   “อากาศยานไร้นักบิน 2 ลำนี้มุ่งหมายที่จะเข้าโจมตีเครมลิน แต่จากการปฏิบัติการอย่างทันการณ์ของฝ่ายทหารและหน่วยงานพิเศษต่างๆ ด้วยการใช้ระบบการสงครามเรดาร์ อากาศยานไร้นักบินเหล่านี้จึงถูกทำให้ปฏิบัติการต่อไปไม่ได้” เครมลินระบุในคำแถลง   “เราถือว่าการปฏิบัติการเหล่านี้คือการกระทำของผู้ก่อการร้ายที่มีการวางแผนตระเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า และเป็นความพยายามที่มุ่งหวังเอาชีวิตของท่านประธานาธิบดี โดยดำเนินการในวันสุกดิบก่อนหน้าการเดินขบวนสวนสนามใน “วันแห่งชัยชนะ” 9 พฤษภาคม ซึ่งมีการวางแผนเตรียมการให้แขกชาวต่างประเทศเข้าร่วมงานด้วย…”   ทั้งนี้ วันแห่งชัยชนะ…

เลขาธิการ ‘นาโต’ ลั่น ยานหุ้มเกราะ-รถถัง ร่วม 1,900 คัน ถึงยูเครนแล้ว!

Loading

  นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวเมื่อวันที่ 27 เมษายนว่า พันธมิตรและหุ้นส่วนนาโตได้ส่งมอบยานพาหนะทางการทหารร่วม 1,900 คัน ซึ่งประกอบไปด้วย ยานหุ้มเกราะจำนวน 1,550 คัน และรถถังอีก 230 คันให้แก่ยูเครน เพื่อใช้ในการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการและช่วยกอบกู้ดินแดนของยูเครนจากกองทัพรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   สโตลเทนเบิร์กแถลงข่าวว่า การส่งมอบยานพาหนะเหล่านี้ นับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกโจมตีจนเกิดเป็นสงครามในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 คิดเป็นกว่า 98% ของจำนวนยานรบภาคพื้นดินทั้งหมดที่สัญญาว่าจะสนับสนุนให้แก่เคียฟ   “เบ็ดเสร็จแล้วพวกเราได้ฝึกฝนและติดตั้งกองพลยานเกราะใหม่ของยูเครนมากกว่าเก้ากองพล สิ่งนี้จะทำให้ยูเครนยืนอยู่ในจุดที่แข็งแกร่งในการกอบกู้ดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองต่อไปได้” เลขาธิการนาโตกล่าว นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ รัฐสมาชิกของนาโตยังได้สนับสนุนระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่แก่ยูเครน ขณะที่โปแลนด์และสาธารณรัฐเช็กได้ส่งมอบเครื่องบินขับไล่ มิก-29 ซึ่งถูกออกแบบโดยสหภาพโซเวียตแก่ยูเครนเช่นกัน อีกทั้งนาโตยังได้ฝึกซ้อมนายทหารของยูเครนจำนวนหลายพันนายในการใช้อาวุธต่างๆ   สโตลเทนเบิร์กได้ตอกย้ำการสนับสนุนทางทหารแก่ยุเครนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ พร้อมเตือนว่า “พวกเราไม่ควรประมาทรัสเซีย” ซึ่งกำลังเคลื่อนพลภาคพื้นดินมากขึ้นและเต็มใจที่จะส่งกองทัพจำนวนหลายพันนายออกไปรบ แม้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงก็ตาม   ในการเผชิญหน้ากับสงครามที่มีทีท่าว่าจะยืดเยื้อนี้ สโตลเทนเบิร์กกล่าวว่า สมาชิกนาโตจะต้องอดทนต่อความยากลำบากและสนับสนุนสิ่งที่จำเป็นต่อยูเครนเพื่อให้มีชัยเหนือรัสเซียต่อไป   เลขาธิการนาโตผู้นี้กล่าวด้วยว่า การประชุมสุดยอดนาโตในเดือนกรกฎาคมที่ประเทศลิทัวเนียจะเป็นการวางแผนการสำหรับโครงการสนับสนุนยูเครนไปอีกหลายปี และกล่าวว่า ตนมีความรู้สึกยินดีต่อการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี…

น่าจับตา! ‘สีจิ้นผิง-เซเลนสกี’ คุยโทรศัพท์ร่วมกันครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครน

Loading

      ผู้นำจีนและผู้นำยูเครน สนทนาทางโทรศัพท์ร่วมกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนปะทุ เมื่อเดือน ก.พ. 2565   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งนับเป็นการพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของผู้นำทั้งสองประเทศ ตั้งแต่การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยุเครนปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565   สีกล่าวในตอนหนึ่ง ว่าจีนให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกระบวนการเจรจาสันติภาพ และผลักดันให้เกิดการหยุดยิงโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งในฐานะหนึ่งในสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) จะไม่ใช่ประเทศที่คอยสุมไฟให้เกิดความขัดแย้ง หรืออย่างน้อยที่สุด คือ การมุ่งแสวงหาผลประโยชน์จากสถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่   I had a long and meaningful phone call with ?? President…

รู้เขาหลอก! นักข่าวอาวุโสมะกันชื่อดังแฉตะวันตกทราบดี อาวุธที่ส่งให้ยูเครนถูกยักย้ายไปขายในตลาดมืด

Loading

    ซีย์มอร์ เฮิร์ช นักข่าวอาวุโสชื่อดังชาวอเมริกัน แฉตะวันตกรู้ดีว่าอาวุธจำนวนมากที่ส่งให้เคียฟถูกพวกผู้บังคับบัญชาทหารยูเครนแอบส่งขายให้พ่อค้าอาวุธในโปแลนด์ โรมาเนีย และอีกหลายประเทศ ขณะเดียวกัน เขาด้วยชี้ว่า นิวยอร์กไทมส์ซึ่งเขาเคยทำงานด้วยตอนนี้กลายพันธุ์เป็นสื่อโปรไบเดนเต็มตัว   เฮิร์ช เจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับแอฟชิน แรตแทนซี ในรายการ “โกอิ้ง อันเดอร์กราวด์” ว่า ตะวันตกรับรู้เรื่องการซื้อขายอาวุธในตลาดมืดนี้ และสื่ออเมริกันก็เคยรายงานข่าวการสูญหายของอาวุธที่จัดส่งไปให้ยูเครนตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว   นักข่าวอาวุโสผู้นี้อ้างว่า เกือบจะทันทีหลังจากความขัดแย้งระหว่างเคียฟกับมอสโกระเบิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 อาวุธที่ตะวันตกและพันธมิตรส่งให้เคียฟใช้ในสงคราม กลับหลั่งไหลท่วมตลาดมืดในโปแลนด์ โรมาเนีย และประเทศอื่นๆ ซึ่งบ่อยครั้งเป็นฝีมือทหารยูเครนระดับนายพัน และระดับอื่นๆ ที่เอาอาวุธที่ได้รับมาไปขายในตลาดมืดหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง   เฮิร์ชตั้งข้อสังเกตว่า ปีที่ผ่านมามีความกังวลในตะวันตกว่า อาวุธบางส่วนที่ส่งให้ยูเครน เช่น ขีปนาวุธแบบประทับบ่า “สตริงเกอร์” อาจถูกนำไปใช้ในการยิงเครื่องบินที่กำลังบินอยู่ในระดับสูงมากๆ   เขาเสริมว่า เครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอสเคยนำเสนอข่าวนี้แต่ถูกบีบให้ดัดแปลงแก้ไข เนื่องจากสื่อรายนี้สนับสนุนจุดยืนของอเมริกาในการ “ยืนข้างยูเครน และจงเกลียดจงชังรัสเซีย”   สิ่งที่เฮิร์ชพาดพิงถึงนี้น่าจะเป็นสารคดีเรื่อง “การติดอาวุธยูเครน” ที่ซีบีเอสแพร่ภาพเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยปรากฏว่าเนื้อหาบางตอนที่ตัดมาโปรโมต ซึ่งรวมถึงคำพูดเปิดเผยของโจนาส โอห์แมน ผู้ก่อตั้งกลุ่มบลู-เยลโลว์…