กรณีศึกษาอนุสัญญาเวียนนา เมื่อนักการทูต ‘เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา‘

Loading

ถ้อยคำนี้ไม่ได้เป็นเพียงคำกล่าวอ้างธรรมดา แต่เป็นมาตรการทางการทูตอย่างรุนแรงที่สุดมาตรการหนึ่งที่ประเทศผู้รับสามารถใช้ขับไล่นักการทูต หรือเจ้าหน้าที่ทางการทูตออกจากประเทศ มาตรการนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานระหว่างประเทศ และมักเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงวิกฤติการณ์ทางการทูตที่อาจบานปลายได้

เกมไล่จารชน

Loading

  นอกจากสงครามการเมือง สงครามเศรษฐกิจ และสงครามที่ใช้อาวุธห้ำหั่นกันระหว่างรัสเซียกับยูเครนแล้ว ล่าสุด กองหนุนยูเครนเช่น สหรัฐและชาติยุโรปตะวันตกนอกจากส่งอาวุธให้ยูเครนสู้กับรัสเซียแล้ว มาตรการหนึ่งที่รัฐบาลวอชิงตันนิยมใช้ในทางการเมือง คือ ขับนักการทูตรัสเซียที่ประจำอยู่ในสถานทูตและสถานกงสุลรัสเซียในสหรัฐ   คราวนี้ วอชิงตันได้ชักชวนสมาชิกนาโตในยุโรปช่วยกันขับนักการทูตรัสเซียที่ประจำอยู่ในประเทศนั้น ๆ อิตาลีได้ขับนักการทูตรัสเซียประจำอิตาลีกลับประเทศไปแล้ว 30 คน ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและวิกฤติการณ์ยูเครน เยอรมนี ซึ่งนำเข้าก๊าซธรรมชาติจำนวนมากจากรัสเซีย ก็สั่งขับ 40 คน สเปนสั่งขับนักการทูตรัสเซียประมาณ 25 คนกลับประเทศ อิตาลี จับนักการทูตรัสเซีย 30 คน สวีเดน สั่งขับทูตรัสเซีย 3 คน เดนมาร์กขับทูตรัสเซีย 15 คน โรมาเนียขับนักการทูตรัสเซีย 10 คน สโลวาเนีย ขับนักการทูตรัสเซีย 33 คน เอสโทเนีย ก็เอากับเขาด้วยเหมือนกัน   เพียง 48 ชั่วโมงแรก ประเทศพันธมิตรนาโตขับทูตรัสเซียแล้วรวมประมาณ 150 คน หากรวมตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกยูเครน มีนักการทูตรัสเซียถูกขับออกจากสหรัฐและสมาชิกนาโตมากกว่า…