กองทัพเกาหลีใต้ยอมรับ โดรนเกาหลีเหนือล้ำเขตห้ามบินรอบทำเนียบ ปธน.

Loading

  กองทัพเกาหลีใต้ยอมรับว่า โดรนของเกาหลีเหนือรุกล้ำเขตห้ามบินรอบทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องประสิทธิภาพของระบบป้องกันทางอากาศของประเทศ   เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 ม.ค. 2566 กองทัพของประเทศเกาหลีใต้ออกมายอมรับว่า อากาศยานไร้พลขับ หรือ โดรน ของเกาหลีเหนือลำหนึ่ง บินเข้าสู่พื้นที่ทางตอนเหนือของเขตห้ามบินรัศมี 3.7 กม. รอบทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล ในตอนที่มันรุกล้ำน่านฟ้าของประเทศเมื่อปลายเดือนก่อน   เจ้าหน้าที่กองทัพบอกกับสำนักข่าว ยอนฮัป ของเกาหลีใต้ว่า โดรนลำนี้บินรุกล้ำชายขอบทางตอนเหนือของเขตห้ามบินเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่ไม่ได้เข้าใกล้อาคารความมั่นคงสำคัญใด ๆ   ทั้งนี้ โดรนดังกล่าวเป็นหนึ่งในอากาศยานไร้คนขับของเกาหลีเหนือ 5 ลำ ที่บินรุกล้ำชายแดนเข้าสู่น่านฟ้าของเกาหลีใต้เมื่อ 26 ธ.ค. 2565 จนทำให้กองทัพเกาหลีใต้ต้องส่งเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์จู่โจมออกปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม กองทัพไม่ได้ยิงทำลายโดรนฝูงนี้ และปล่อยให้มันบินในน่านฟ้าของประเทศนานหลายชั่วโมง   การรุกล้ำน่านฟ้าของโดรนฝูงนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ระบบป้องกันทางอากาศของประเทศขึ้นในเกาหลีใต้ ในขณะที่เกาหลีเหนือแสดงท่าทีคุกคามมากขึ้นด้วยการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธ และทดสอบยิงมิสไซล์มากครั้งที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปีที่ผ่านมา   “การรุกล้ำเขตแดนของโดรนเปิดเผยให้เห็นความไม่พร้อมของเกาหลีใต้ในการตรวจจับ, ติดตาม และยิงทำลายโดรนขนาดเล็กเช่นนี้” ยอนฮัประบุ   เหตุการณ์ดังกล่าวยังทำให้ประธานาธิบดี ยูน ซุก-ยอล ขู่ระงับสนธิสัญญาทางทหารที่ทั้งสองฝ่ายทำไว้ในปี 2561 ซึ่งกำหนดให้หยุดพฤติกรรมเป็นปรปักษ์,…

ผู้นำเกาหลีใต้ขู่พร้อมยกเลิกสนธิสัญญาทางทหาร หากเกาหลีเหนือรั้นส่งโดรนป่วนน่านฟ้าอีก

Loading

  วันที่ 4 มกราคม ประธานาธิบดียุนซอกยอลแห่งเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เขาพร้อมพิจารณาระงับสนธิสัญญาทางทหารระหว่างสองเกาหลีที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 2018 หากเกาหลีเหนือส่งโดรนรุกล้ำน่านฟ้าของเกาหลีใต้อีกครั้ง   คำกล่าวของยุนมีขึ้นหลังจากที่เขาได้ร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการตอบโต้ต่อเกาหลีเหนือ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ส่งโดรนขนาดเล็กหลายลำรุกล้ำน่านฟ้าของเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปี ขณะที่ฝั่งเกาหลีใต้ได้ส่งโดรน 3 ลำเข้าไปในเกาหลีเหนือเพื่อเป็นการตอบโต้   คิมอึนเฮ เลขาธิการอาวุโสฝ่ายกิจการสื่อของยุน เปิดเผยว่า “ในระหว่างการประชุม ท่านประธานาธิบดีสั่งการให้สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาระงับข้อตกลงทางทหาร หากเกาหลีเหนือยังดึงดันกระทำการยั่วยุด้วยการบุกรุกดินแดนของเราอีกครั้ง”   ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และอดีตประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้ ได้ร่วมกันทำข้อตกลงฉบับหนึ่งขึ้นมา โดยเรียกร้องให้มีการยุติ ‘การกระทำที่เป็นปรปักษ์ทุกรูปแบบ’ รวมถึงจัดตั้งเขตห้ามบินตามแนวพรมแดน และร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดในเขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone) แต่ถึงเช่นนั้นข้อตกลงดังกล่าวก็ไม่ถือเป็นสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการ   การยกเลิกสนธิสัญญาทางทหารนี้อาจทำให้ทั้งสองประเทศส่งทหารกลับมาประจำการอีกครั้ง รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่จะจัดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในเขตห้ามบิน และการส่งใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อข้ามพรมแดน ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่ทำให้ฝั่งเกาหลีเหนือโกรธเกรี้ยวอย่างมากจนมีการงัดใช้มาตรการตอบโต้หลายครั้งก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงนี้   นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีจะมีปัญหามายาวนานหลายทศวรรษ แต่สถานการณ์กลับยิ่งตึงเครียดมากขึ้น นับตั้งแต่ยุนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเขาเป็นผู้นำที่ให้คำมั่นว่าจะใช้ไม้แข็งเพื่อจัดการกับการยั่วยุของเกาหลีเหนือ โดยในระหว่างการหาเสียงเมื่อปีที่แล้ว ยุนกล่าวว่าเกาหลีเหนือได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหลายครั้งจากการกระหน่ำทดสอบยิงขีปนาวุธ และเตือนว่าเขาพร้อมคว่ำข้อตกลงหากชนะการเลือกตั้ง และหลังจากที่ขึ้นครองตำแหน่งผู้นำประเทศแล้ว เขากล่าวว่าชะตากรรมของสนธิสัญญานี้ขึ้นอยู่กับความประพฤติของเกาหลีเหนือเอง    …

ผู้นำเกาหลีใต้จะตั้งกองโดรน

Loading

  โซล 27 ธ.ค.- ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้จะตั้งหน่วยพิเศษในกองทัพที่เชี่ยวชาญเรื่องอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน และวิจารณ์การรับมือของกองทัพกรณีฝูงโดรนเกาหลีเหนือล่วงล้ำน่านฟ้าเกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์   ประธานาธิบดียุนกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ว่า เหตุการณ์เมื่อวันจันทร์แสดงให้เห็นว่ากองทัพขาดความพร้อมและการฝึกฝนอย่างมากในช่วงหลายปีมานี้ จำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมและฝึกฝนให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น   ความไม่พร้อมนี้เป็นผลจากการที่รัฐบาลชุดก่อนมีนโยบายเกาหลีเหนือที่เป็นอันตราย โดยกำหนดนโยบายตามที่เกาหลีเหนือแสดงเจตนาอันดีและข้อตกลงทางทหารสองเกาหลีปี 2561 ที่ห้ามการดำเนินกิจกรรมที่เป็นปรปักษ์บริเวณพรมแดน   ผู้นำเกาหลีใต้เผยว่า รัฐบาลได้เตรียมการมาระยะหนึ่งแล้วเรื่องการสร้างหน่วยโดรนเพื่อจับตาและสอดแนมสถานที่ทางทหารหลัก ๆ ของเกาหลีเหนือ ขณะนี้จะเร่งทำให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยจะนำโดรนล่องหนชั้นเยี่ยมมาเสริมศักยภาพในการจับตาและสอดแนม   ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า กองทัพตรวจพบ ติดตาม และยิงเตือนฝูงโดรนเกาหลีเหนือ 5 ลำที่ข้ามเส้นแบ่งเขตแดนทางทหารเข้ามาบินเหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้ร่วม 5 ชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ และได้ไล่ตามโดรนลำหนึ่งที่บินเหนือน่านฟ้าเขตมหานครโซล แต่ไม่สามารถโจมตีได้เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อพลเรือน   เกาหลีเหนือเคยส่งโดรนล่วงล้ำน่านฟ้าเกาหลีใต้ครั้งหลังสุดในปี 2560 สันนิษฐานว่าเป็นโดรนสอดแนม โดยตกอยู่บนภูเขาใกล้พรมแดนสองประเทศ ส่วนปี 2557 พบโดรนเกาหลีเหนือบนเกาะแห่งหนึ่งที่เป็นเกาะพรมแดนของเกาหลีใต้ โดรนเหล่านี้ติดตั้งกล้องและทำขึ้นอย่างลวก ๆ       ————————————————————————————————————————————————————————————————– ที่มา :           …

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เกือบ 900 รายถูกแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือหลอกเอาข้อมูลล็อกอิน

Loading

  สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้หลอกเอาข้อมูลล็อกอินจากผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศของเกาหลีใต้อย่างน้อย 892 รายมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน โดยโจมตีด้วยการส่งอีเมลปลอมเป็นบุคคลสำคัญเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะข้อมูลล็อกอินที่คนร้ายส่งเว็บปลอมเพื่อทำฟิชชิ่ง (phishing) ในจำนวนนี้มีเหยื่อ 49 คนล็อกอินเข้าเว็บปลอมจนคนร้ายได้ข้อมูลไปจริง ๆ   มีการส่งอีเมลปลอมเป็นบุคคลสำคัญอย่างเช่น เลขาของสำนักงานพรรคพลังประชาชน (PPP) และเจ้าหน้าที่จากสถาบันการทูตแห่งชาติ และหลอกให้ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ปลอมหรือให้เปิดไฟล์แนบที่มีไวรัสทำให้กลุ่มแฮ็กเกอร์สามารถเข้าควบคุมบัญชีอีเมลและดาวน์โหลดข้อมูลออกไปได้   ทางสำนักงานตำรวจระบุว่าแฮ็กเกอร์ที่การเปลี่ยนแปลงเลข IP Address และใช้เซิร์ฟเวอร์ถึง 326 แห่งใน 26 ประเทศเพื่อให้ยากต่อการสืบหาตัว ตำรวจเชื่อว่าเป็นแฮกเกอร์กลุ่มเดียวกับที่เจาะระบบของบริษัท Korea Hydro & Nuclear Power ในปี 2014 โดยสันนิษฐานจากวิธีการและกลุ่มเป้าหมายของการโจมตี   นอกจากการส่งอีเมลปลอมแล้ว ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่ทางตำรวจเกาหลีใต้พบว่าแฮ็กเกอร์ของเกาหลีเหนือใช้แรนซัมแวร์เพื่อเข้ารหัสไฟล์บนอุปกรณ์และเรียกค่าไถ่เพื่อปลดล็อก กรณีนี้เกิดขึ้นกับห้างสรรพสินค้า โดยเซิร์ฟเวอร์ 19 ตัวของ 13 บริษัทถูกโจมตี มี 2 บริษัทตัดสินใจจ่ายค่าไถ่รวม 2.5 ล้านวอนหรือประมาณ 7 หมื่นบาท   หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ (NIS)…

เกาหลีเหนือส่งโดรนข้ามพรมแดน บินไกลเฉียดกรุงโซล

Loading

FILE – A suspected North Korean drone is viewed at the Defense Ministry in Seoul, June 21, 2017. South Korea says Dec. 26, 2022, it fired warning shots after North Korean drones violated the South’s airspace. (Lee Jung-hoon/Yonhap via AP, File)   เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือส่งโดรนขนาดเล็กหลายลำเข้าไปในน่านฟ้าของเกาหลีใต้ในวันจันทร์ ทำให้เกาหลีใต้ต้องตอบโต้ด้วยการส่งโดรนของตนไปสกัด และยังส่งเครื่องบินรบไอพ่นและเฮลิคอปเตอร์จู่โจมเข้าไปตอบโต้แต่ไม่สามารถยิงโดรนเกาหลีเหนือตกได้   เจ้าหน้าที่กองทัพเกาหลีใต้เผยด้วยว่า โดรนหนึ่งลำได้บินกลับเข้าไปในเกาหลีเหนือ แต่อีก 4 ลำยังไม่สามารถติดตามได้ โดยทั้ง 5 ลำเป็นโดรนขนาดเล็ก…

แฮ็กเกอร์สุดแสบ เจาะระบบกล้องวงจรปิดในบ้านกว่า 400,000 หลัง ล้วงคลิปส่วนตัวไปขาย

Loading

  หนุ่มไอทีชาวเกาหลีใช้ความรู้ในทางที่ผิด แอบล้วงไฟล์วิดีโอและภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิดตามบ้านหลายแสนตัว จากนั้นก็นำออกมาขาย   วานนี้ (20 ธ.ค. 2565) ตำรวจเกาหลีใต้จับกุมผู้ต้องหาชายวัย 30 ปีเศษ หลังจากสืบพบว่าเขาใช้ความเชี่ยวชาญด้านไอทีแฮกเข้าระบบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งตามที่พักอาศัยได้มากกว่า 400,000 หลังคาเรือน จากนั้นก็พยายามนำไฟล์ซึ่งมีทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอ ไปขาย   ตำรวจระบุว่า ผู้ต้องหาซึ่งระบุเพียงชื่อสกุลว่า ลี ได้ใช้ความรู้ด้านระบบรักษาความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีไอที เจาะระบบเข้าไปขโมยไฟล์ภาพและคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดตามที่พักอาศัยทั้งหมด 404,847 แห่ง ซึ่งติดตั้งอยู่ในอาคารอพาร์ตเมนต์คอมเพล็กซ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งหมด 638 อาคาร โดยช่วงเวลาที่ลงมืออยู่ระหว่างเดือน ส.ค.-พ.ย. 2564   ตำรวจชี้ว่า ลี ใช้โปรแกรมเจาะระบบอัตโนมัติ ทำให้เขาสามารถใช้เราเตอร์ไร้สายจำนวน 10 ตัวเจาะเข้าเซิร์ฟเวอร์ของระบบกล้องวงจรปิดในอาคารอพาร์ตเมนต์เหล่านั้น ซึ่งทำให้เขาเข้าถึงตัวกล้องและระบบควบคุมกล้องในห้องชุดจำนวน 404,847 ห้องด้วยกัน หลังจากนั้น เขาก็พยายามจะนำไฟล์ที่ขโมยได้ออกไปขายให้บุคคลที่ 3 แต่ไม่มีรายละเอียดระบุว่า เขาสามารถขายได้สำเร็จหรือไม่   ตำรวจเกาหลีใต้ เผยว่า ลี เคยมีประวัติกระทำผิดด้านการแอบเจาะเข้าระบบและโจมตีทางไซเบอร์มาแล้ว ขณะที่ ลี…