ไฮโดรเจน พลังงานสะอาดแห่งอนาคต ?

Loading

เมื่อพูดถึงพลังงานสะอาด หลายคนอาจนึกถึงโซลาร์เซลล์ กังหันลม หรือเขื่อน แต่ยังมีอีกหนึ่งพลังงานที่กำลังเป็นที่จับตา นั่นคือ “พลังงานไฮโดรเจน” นี่อาจจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมด้านพลังงานของโลกเลยทีเดียว ซึ่งอาจจะเข้ามาแทนน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้ในอนาคต

‘ยุโรป’ แดดดี ผลิตไฟฟ้าจาก ‘แสงอาทิตย์’ มากสุด พร้อมเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

Loading

จากข้อมูลใหม่จาก Ember สถาบันวิจัยด้านพลังงาน แสดงให้เห็นว่า ในเดือนมิถุนายน 2568 “สหภาพยุโรป” สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์คิดเป็น 22.1% ซึ่งมากที่สุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยมากกว่าพลังงานนิวเคลียร์อย่างเฉียดฉิว และที่สำคัญคือแซงหน้าเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างมาก

ความท้าทายด้านพลังงานของ AI: เหตุใดดาต้าเซ็นเตอร์ในเอเชียถึงควรปฏิรูประบบระบายความร้อนเพื่ออนาคต

Loading

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับโลกด้านการขยายตัวของดาต้าเซ็นเตอร์อย่างรวดเร็ว ซึ่งขับเคลื่อนโดยการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) คลาวด์คอมพิวติ้ง และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมาใช้มากขึ้น ความโดดเด่นของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกับการเติบโตของดาต้าเซ็นเตอร์สืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ฐานผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ขยายตัว และนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐ

เปลี่ยน ‘เหมืองร้าง’ เป็น ‘โซลาร์ฟาร์ม’ มุ่งสู่พลังงานสะอาด ช่วยฟื้นฟูที่ดิน

Loading

นักวิจัยจาก Global Energy Monitor (GEM) ระบุว่าเหมืองถ่านหิน 312 แห่งทั่วโลกปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2020 และมีแนวโน้มว่าจะปิดตัวเพิ่มขึ้นอีก 134 แห่งภายในสิ้นทศวรรษนี้ โดยครอบคลุมพื้นที่รวมกัน 5,820 ตร.กม. โดยนักวิจัยแนะนำว่าสามารถเปลี่ยนเหมืองถ่านหินร้างเหล่านี้ให้เป็น “โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์” อาจมีพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเกือบ 300 กิกะวัตต์ ภายในปี 2030 

สังคมโลก : ความเชื่อมโยง

Loading

นายอนเยมา เอ็นดูกา อาจารย์อาวุโสด้านความยั่งยืนของพลังงาน จากมหาวิทยาลัยรอยัลฮอลโลเวย์ ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร กล่าวว่า โครงข่ายไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกัน ช่วยจัดการการส่งออกและการนำเข้าไฟฟ้า ส่งผลให้อุปทานมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แต่ปัญหาไฟฟ้าดับก็อาจเกิดขึ้นได้ ดังเช่นกรณีของโปรตุเกสและสเปนเมื่อไม่นานมานี้ แม้ประเทศในยุโรปเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไม่บ่อยนักก็ตาม

ทั่วโลกใช้ ‘พลังงานสะอาด’ ทะลุ 40% ‘โซลาร์เซลล์’ เติบโตมากสุด

Loading

รายงานฉบับใหม่จากกลุ่มสถาบันวิจัยด้านพลังงาน Ember ระบุว่าในปี 2024 การผลิตไฟฟ้าของโลกมากกว่า 40% มาจาก “พลังงานหมุนเวียน” แต่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวการที่ทำให้ “โลกร้อน” กลับเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากปีที่ผ่านมาอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น ยิ่งทำให้ความต้องการพลังงานโดยรวมมากขึ้น ส่งผลให้ต้องใช้ “เชื้อเพลิงฟอสซิล” เพิ่มมากขึ้น