พกปืนมาด้วย?! สนามบินสหรัฐฯ ยึดปืนจากผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวเมื่อปีก่อน

Loading

  สำนักงานดูแลความปลอดภัยด้านการคมนาคมของสหรัฐฯ หรือ TSA เผยหน่วยงานด้านความปลอดภัยที่สนามบินทั่วอเมริกา ยึดอาวุธปืนจากผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทำสถิติใหม่เมื่อปีที่แล้ว ตามรายงานของ Associated Press หน่วยงาน TSA เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า เมื่อปี 2020 เพียงปีเดียว เจ้าหน้าที่ตามจุดตรวจที่สนามบินทั่วประเทศ ยึดอาวุธปืนจากผู้โดยสารเที่ยวบินต่างๆ หรือจากกระเป๋าสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องบินของผู้โดยสารได้ราว 3,257 กระบอก หรือเท่ากับว่าผู้โดยสาร 1 ล้านคน จะมีอาวุธปืนติดตัวมาด้วยราว 10 คน ขณะที่อาวุธปืนราว 83% อยู่ในสัมภาระที่เก็บใต้ท้องเครื่อง ที่น่าสนใจคือ การยึดอาวุธปืนที่สนามบินต่างๆ ในอเมริกาเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2019 จากที่ผู้โดยสารเครื่องบินเฉลี่ย 5 คน จากทุกๆ 1 ล้านคน จะพกพาอาวุธปืนมาที่สนามบิน แต่ยอดนักท่องเที่ยวเดินทางโดยเครื่องบินในปี 2019 มากกว่าในปี 2020 ถึง 500 ล้านคน จากวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้การเดินทางโดยเครื่องบินลดฮวบ ทาง TSA ยังพบว่า 5 สนามบินในอเมริกาที่พบการพกพาอาวุธปืนของผู้โดยสารมากที่สุดเมื่อปีที่แล้ว…

รวบหนุ่มห้าววัย27ปี ขู่’ฆ่าตัดคอ’ประธานาธิบดี’ไบเดน’

Loading

  หนุ่มอเมริกันชาวรัฐนอร์ธแคโรไลนา ถูกจับกุมและตั้งข้อหาส่งฟ้องศาลดำเนินคดี ฐานขู่จะฆ่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และบุคคลสำคัญอื่นๆ ในคณะรัฐบาล     สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและรอยเตอร์ รายงานจากเมืองชาร์ลอตต์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ว่า นายเดวิด ไคยล์ รีฟส์ อายุ 27 ปี ชาวเมืองแกสโตเนีย รัฐนอร์ทแคโรไลนา ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ฐานเจตนาข่มขู่จะสังหาร และทำลายศพ ประธานาธิบดีสหรัฐ อัยการเผยว่า ระหว่างวันที่ 28 ม.ค. – 1 ก.พ. 2564 รีฟส์โทรศัพท์ถึงแผนกรับสายโทรศัพท์ประจำทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน หลายครั้ง พูดขู่จะสังหารประธานาธิบดีโจ ไบเดน และบุคคลสำคัญอื่นๆ ในรัฐบาล โดยในการโทรศัพท์ครั้งหนึ่ง รีฟส์กล่าวว่า เขาจะฆ่าทุกคนและตัดศีรษะให้ขาดหลุดออกจากบ่า     นอกจากนั้น รีฟส์ยังโทรศัพท์ถึงเจ้าหน้าที่ หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐ (Secret…

FBI เตือนผู้ประกอบการระวังการใช้ TeamViewer และ Windows 7 หลังเกิดเหตุโรงงานบำบัดน้ำถูกแฮ็ก

Loading

เมื่อไม่กี่วันก่อนหลายท่านอาจจะเห็นข่าวที่ว่าโรงงานบำบัดน้ำในรัฐฟลอริดาถูกแฮ็กเกอร์ลอบเข้าไปปรับระดับสารเคมีสู่ระดับอันตราย ซึ่งหลังจากการสืบสวนทาง FBI จึงได้ออกเตือนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ระวังการใช้งาน TeamViewer และ Windows 7 ออกมา ในเหตุการณ์ครั้งนั้นได้รับการยืนยันแล้วว่า TeamViewer คือจุดทางเข้าของคนร้ายเพื่อเข้ามาในโรงงาน ด้วยเหตุนี้ FBI จึงได้มีการเตือนให้ระวังการใช้โซลูชัน Desktop Sharing เป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังพบว่าโรงงานดังกล่าวยังคงใช้ Windows 7 กันอยู่บ้าง ซึ่งคล้ายกับอีกหลายโรงงานที่ยังไม่มีงบพอที่จะเปลี่ยนใหม่ อย่างไรก็ดีถึงแม้ยังไม่พบการโจมตีของคนร้ายในช่องโหว่บน Windows 7 แต่ก็ออกเตือนเอาไว้ก่อนเพราะการใช้ OS ที่ Vendor ไม่สนับสนุนอีกต่อไปนั้นอันตรายอย่างยิ่ง สำหรับวิธีการป้องกันมีหลักการเบื้องต้นดังนี้ ใช้งาน multi-factor authentication ใช้รหัสผ่านสำหรับ RDP ที่แข็งแรง จัดหาและเปิดโซลูชันป้องกันต่างๆ เช่น Spam Filter, Anti-virus และ Firewall พร้อมคอนฟิคอย่างรัดกุมและอัปเดตให้ล่าสุดเสมอ ตรวจสอบการป้องกันระดับเครือข่ายว่ามีการแบ่งแยกโซนดีหรือยัง ไม่ว่าจะเป็นระบบและความเก่าใหม่ ตรวจสอบการใช้งาน RDP และเปิดใช้ 2FA หากทำได้ ตรวจสอบ…

สุดพิเรนทร์! แฮกเกอร์ป่วน ‘โรงประปา’ ฟลอริดา ป้อนคำสั่งเติม ‘โซดาไฟ’ เพิ่ม 100 เท่า!!

Loading

  ทางการสหรัฐฯ เผยมีกลุ่มแฮกเกอร์โจมตีระบบจ่ายน้ำประปาของเมืองแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริดา โดยป้อนคำสั่งเพิ่มปริมาณ “โซดาไฟ” เกินกว่าปกติถึง 100 เท่า แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบความผิดปกติได้ทัน และไม่มีประชาชนได้รับอันตราย อย่างไรก็ตาม บ็อบ กูอัลทิเอรี ผู้ปกครองเทศมณฑลพิเนลลัส ชี้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่อระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของสหรัฐฯ ผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ของโรงกรองน้ำเมืองโอลด์สมาร์ (Oldsmar) ตรวจพบเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่แล้ว (5) ว่า มีใครบางคนกำลังเข้าถึงซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของโรงงานจากระยะไกล โดยบุคคลปริศนาได้เลื่อนเมาส์ไปยังปุ่มฟังก์ชันต่างๆ อยู่นานหลายนาที ก่อนจะสั่งเพิ่มปริมาณ “โซเดียมไฮดรอกไซด์” หรือโซดาไฟลงในน้ำ โดยปกติแล้วสารชนิดนี้จะถูกเติมในปริมาณเพียงเล็กน้อยเพื่อควบคุมค่าความเป็นกรดและแยกโลหะออกจากน้ำ ก่อนที่น้ำจะถูกจ่ายไปยังผู้บริโภค แฮกเกอร์รายนี้ได้สั่งเพิ่มปริมาณโซเดียมไฮดรอกไซด์จากอัตราส่วน 100 ต่อ 1,000,000 เป็น 11,100 ต่อ 1,000,000 หรือเกินค่าปกติถึง 100 เท่าตัว ก่อนที่จะออกจากระบบไป “มันเป็นปริมาณที่เพิ่มขึ้นจนเข้าข่ายอันตราย แต่โชคดีที่เราสามารถตรวจพบในทันที” กูอัลทิเอรี เผยกับสื่อมวลชน พร้อมยืนยันว่าไม่มีผู้ใช้น้ำได้รับอันตรายจากเหตุการณ์นี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงกว่าน้ำประปาที่ถูกเติมโซเดียมไฮดรอกไซด์เกินขนาดจะถูกจ่ายไปถึงผู้บริโภคในเมือง ซึ่งระหว่างนั้นระบบความปลอดภัยของโรงกรองน้ำก็จะแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ให้ทราบถึงคุณภาพน้ำที่เปลี่ยนแปลงไป สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) และหน่วยซีเคร็ตเซอร์วิสได้รับการประสานให้เข้ามาช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ยังไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ พนักงานสอบสวนยังไม่ฟันธงว่าปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของบุคคลที่อยู่ภายในหรือนอกสหรัฐอเมริกา และเหตุใดโรงกรองน้ำโอลด์สมาร์จึงตกเป็นเป้าหมาย…

Amazon Ring จับมือกับกองตำรวจและดับเพลิงกว่า 2,000 หน่วยในอเมริกา

Loading

  Ring ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านจาก Amazon ยังคงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับเสียงคัดค้าน โดย The Financial Times ได้รายงานว่า Amazon Ring ร่วมมือกับกองตำรวจและหน่วยดับเพลิงรวม 2,014 หน่วยในอเมริกาแล้ว ซึ่งมีหน่วยงาน 1,189 หน่วยเพิ่มขึ้นมาในปี 2563 มีเพียงรัฐมอนทานาและรัฐไวโอมิง สองรัฐนี้เท่านั้นที่ไม่ปรากฏความร่วมมือดังกล่าว     หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากความร่วมมือนั้น โดย Ring เผยว่า หน่วยงานต่าง ๆ ก็ขอวิดีโอจากเหตุการณ์มากกว่า 22,335 ครั้งในปี 2563 ซึ่งมีคำขอกว่า 1,900 รายการ เช่น หมายเรียก หมายค้น และคำสั่งศาล สำหรับฟุตเทจหรือข้อมูลจากกล้อง Ring แม้ว่าเจ้าของอุปกรณ์จะปฏิเสธคำขอ ทั้งนี้ จากตัวเลขเผยว่า Amazon ยอมปฏิบัติตามคำร้องขอ 57 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจาก 68 เปอร์เซ็นต์เมื่อปี 256 ผู้สนับสนุนประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวได้แสดงความกังวลถึงวิธีการที่ข้อมูลจาก…

ภัยคุกคามยังมี! เพนตากอนสั่งคงกองกำลังทหารในวอชิงตันถึงกลาง มี.ค.

Loading

  กระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศคงกองกำลังทหารรักษาดินแดนหลายพันนายไว้ในกรุงวอชิงตันต่อไปจนถึงกลางเดือนมีนาคมนี้ แม้ว่าจะเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไปแล้ว เนื่องจากภัยคุกคามต่อเนื่องยังคงดำรงอยู่ อย่างไรก็ดีกระทรวงกลาโหมสหรัฐไม่ได้ระบุชัดเจนถึงสิ่งที่เป็นภัยคุกคามที่ยังคงมีอยู่ว่าคืออะไร โดยบอกเพียงว่าข้อมูลดังกล่าวได้มาจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เท่านั้น และว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสี่ยงในหลายเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในกรุงวอชิงตันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทางการสหรัฐยังคงวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังการบุกยึดอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเชื่อว่าความกังวลดังกล่าวยังคงอยู่ไปจนถึงวันที่วุฒิสภาสหรัฐจะเริ่มต้นพิจารณาถอดถอนทรัมป์ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้   —————————————————————————————————————————————————————- ที่มา :  มติชน    / วันที่เผยแพร่  26 มกราคม 2564 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2547850