ตำรวจเยอรมนีสอบเหตุขู่ระเบิดที่สถานทูตสหรัฐ

Loading

เบอร์ลิน 11 มี.ค. – ตำรวจกรุงเบอร์ลินรายงานว่า ชายคนหนึ่งถูกควบคุมตัวภายหลังอ้างว่า มีระเบิดภายในกระเป๋าสัมภาระที่เขาพยายามนำเข้าไปในสถานทูตสหรัฐ โฆษกตำรวจกรุงเบอร์ลินของเยอรมนีกล่าววันนี้ว่า พนักงานรักษาความปลอดภัยไม่อนุญาตให้ชายคนดังกล่าวเข้าสถานทูตเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. อย่างไรก็ตามตำรวจกำลังสอบสวนตามที่มีรายงานว่าชายคนนี้มีพฤติกรรมรุนแรงและพยายามชกต่อยพนักงานรักษาความปลอดภัย จนกระทั่งถูกตำรวจรวบตัวได้ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้เขายังอ้างว่ามีระเบิดภายในกระเป๋าสัมภาระอยู่ที่ด้านหน้าทางเข้าสถานทูต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่และกระเป๋าดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าชายคนนี้มีปัญหาสภาพจิตผิดปกติ . ————————————– ที่มา : สำนักข่าวไทย วันที่ 11 มี.ค. 2559 Link : http://www.tnamcot.com/content/422359

ระทึก! หนุ่มโปรตุเกสบุกฮีทโธรว์ ขังตัวเองในห้องนักบินโบอิ้ง 747

Loading

     ตำรวจอังกฤษจับชายชาวโปรตุเกสคนหนึ่งฐานลักลอบเข้าไปในสนามบินฮีทโธรว์ ก่อนปีนเครื่องบินโบอิ้ง 747 และขังตัวเองอยู่ภายในห้องนักบินเป็นเวลานาน โดยตอนนี้ยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ      สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลุยส์ เปโดร เบร์ดาสกา ดอส ซานโตส คอสตา ชายชาวโปรตุเกส ถูกจับกุมตัวพร้อมตั้ง 3 ข้อหาซึ่งรวมถึงข้อหาเข้าไปในเครื่องบินโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากเขาก่อเหตุบุกฝ่ารั้วรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานลอนดอน ฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน ก่อนปีนขึ้นไปบนเครื่องบินโบอิ้ง 747 ของสายการบิน บริติช แอร์เวย์ส ที่ไม่มีคน และขังตัวเองหลังประตูรักษาความปลอดภัยของห้องนักบินเป็นเวลานาน      เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 5 มี.ค. ชายวัย 38 ปีรายนี้ก่อเหตุปีนข้ามรั้วรักษาความปลอดภัยรอบนอกของท่าอากาศยานลอนดอน ฮีทโธรว์ ก่อนจะลอบเข้าไปในพื้นที่วิศวกรรมของบริติช แอร์เวย์ส ก่อนถูกพบเห็นขณะกำลังปีนขึ้นไปบนห้องโดยสารของเครื่องบินโบอิ้ง 747 ที่จอดอยู่ เขาจึงหนีเข้าไปในห้องนักบินและขังตัวเองอยู่ในนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะสามารถเปิดประตูซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับป้องกันเหตุร้ายบนเครื่อง และจับกุมชายคนนี้ได้สำเร็จ      แหล่งข่าวซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อรายหนึ่งระบุว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนและยากลำบากมาก และในท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องถูกเรียกมาที่เครื่องบินและปฏิบัติหน้าที่อย่างยาวนานเพื่อเข้าไปในห้องนักบินจากภายนอก “เมื่อลองคิดดู มันเป็นสถานการณ์น่ากลัว…

ตำรวจตุรกีจู่โจม! ยึดสำนักพิมพ์เสนอข่าวโจมตีรัฐบาล

Loading

ตำรวจปราบจลาจลตุรกียิงแก๊สน้ำตาและกระสุนน้ำเข้าใส่ผู้ประท้วงนับร้อย หลังบุกยึดสำนักงานหนังสือพิมพ์ซามาน ( Zaman) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศกลางเมืองหลวงในเช้านี้ (5 มี.ค. 59) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 5 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลของประเทศตุรกีใช้แก๊ซน้ำตาจำนวนมาก รวมทั้งปืนฉีดน้ำและกระสุนพลาสติก เข้าสลายการชุนมุมของกลุ่มผู้ประท้วงราว 500 คนที่มารวมตัวกันอยู่หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ ‘ซามาน’ หนังสือพิมพ์ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป เอร์โดอัน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ในนครอิสตันบูล เหตุความรุนแรงล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันศุกร์ (4 มี.ค.) ตำรวจของตุรกีใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุมของฝูงชนจำนวนหลายร้อยคน ที่มารวมตัวที่สำนักงานใหญ่ของหนังสือพิมพ์ซามาน เพื่อบุกเข้าไปภายในสำนักงานและบังคับใช้คำสั่งศาล ภายหลังศาลตุรกีมีคำสั่งให้รัฐบาลยึดกิจการหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ จากข้อหาช่วยเหลือและสนับสนุนองค์กรก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกเล่นงานด้วยกฎหมาย แต่หนังสือพิมพ์ซึ่งมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับ ศ.เฟตุลเลาะห์ กูเลน ศัตรูทางการเมืองของประธานาธิบดีเอร์โดอันผู้ลี้ภัยไปอยู่สหรัฐฯ ที่ยังคงตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ออกมาได้ทันก่อนถูกบุกยึดในช่วงเที่ยงคืนวันศุกร์ โดยระบุข้อความว่า “รัฐธรรมนูญถูกระงับ” เป็นตัวหนังสือตัวใหญ่ไว้บนพื้นหลังสีดำของหน้าแรก พร้อมทั้งระบุด้วยว่า “เมื่อวานนี้ (วันศุกร์) เป็นหนึ่งในวันที่มืดมิดที่สุดในประวัติศาสตร์สื่อ” ด้านสหภาพยุโรปออกมาแสดงความกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตุรกีเป็นอย่างมาก โดยนาย โยฮันเนส ฮาห์น ข้าหลวงใหญ่ด้านนโยบายเพื่อนบ้านและการขยายสหภาพยุโรป กล่าวว่า เขารู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่งจากความเคลื่อนไหวซึ่งมีท่าทีคุกคามโดยตุรกี (รัฐบาล) เขายังเตือนผ่านเว็บไซต์ ทวิตเตอร์…

โซเวียตทำหนังสือถึงยูเครน กรณีกลุ่มผู้ประท้วงโจมตีสถานทูตโซเวียตประจำกรุงเคียฟ

Loading

     รายงานข่าวจากกรุงเคียฟ ยูเครน เมื่อ 6 มี.ค.59 กลุ่มผู้ประท้วงพร้อมอาวุธทำการโจมตีสถานทูตโซเวียตประจำกรุงเคียฟในเวลากลางคืน จนทหารรักษาความปลอดภัยต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นการเตือน จึงยุติ โดยทำความเสียหายแก่รถยนต์ของสถานทูต 3 คัน ทั้งนี้ทางสถานทูตโซเวียตได้ทำหนังสือประท้วงถึงกระทรวงการต่างประเทศยูเครนแล้ว เป็นที่คาดว่าสาเหตุการประท้วงครั้งนี้เกิดจากศาลโซเวียตตัดสินจำคุก Nadezhda Savchenko นายทหารหญิงของยูเครน ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่โซเวียต กรณีมีส่วนในการสังหารนักหนังสือพิมพ์ชาวรัสเซีย 2 คน ———————————- ที่มา : TASS WORLD / 6 มีนาคม 2559

ราชทัณฑ์ไอร์แลนด์เหนือ โดนระเบิดบาดเจ็บ

Loading

     ตำรวจไอร์แลนด์เหนือแถลงว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิดที่อำพรางไว้ใต้ท้องรถแวนทางตะวันออกองเมืองเบลฟาร์ส เขตไอร์แลนด์หนือ ขณะนี้ยังไม่กลุ่มใดอ้างรับผิดชอบ แต่การใช้กับระเบิดแบบนี้เป็นวิธีที่กลุ่ม Irish Republican Army factions กลุ่มก่อการร้ายในเขตไอร์แลนด์เหนือนิยมใช้เพื่อลอบสังหาร ก่อกวนเจ้าหน้าที่ศาล ดำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของไอร์แลนด์หนือ กลุ่ม Irish Republican Army factions เป็นกลุ่มที่พยายามเรียกร้องให้อังกฤษถอนตัวออกจากการปกครองเขตไอร์แลนด์หนือ แต่หยุดการเคลื่อนไหวมากว่า 10 ปี ———————————— ที่มา : The Washington Post / วันที่ 4 มีนาคม 2559  

ฝรั่งเศสอนุมัติให้ตำรวจพกอาวุธหนัก หวังรับมือก่อการร้ายทันท่วงที

Loading

     เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส ระบุเมื่อวันจันทร์ (29 ก.พ.) ว่าตำรวจปารีสจะเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มแรกของเมืองหลวงแดนน้ำหอม ที่ได้รับอาวุธไรเฟิลจู่โจม กับโล่กันกระสุนปืนคาลาชนิคอฟไปใช้งาน หลังเกิดเหตุก่อการร้ายเมื่อปีที่แล้ว      แบร์นาร์ด คาเซเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสระบุว่า ที่ผ่านมาอาวุธเหล่านี้ถูกสงวนไว้ให้เฉพาะกองกำลังระดับหัวกะทิ แต่ตอนนี้จะเปิดโอกาสให้ตำรวจได้ใช้ เพื่อจะได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที คอยหนุนให้กับทีมเจ้าหน้าที่ตรวจตรา โดยเฉพาะเวลาที่เจอกับการสังหารหมู่      “อาชญากรบางรายที่คุณต้องเผชิญหน้าด้วยนั้น พวกเขาไม่ลังเลใจที่จะใช้อาวุธหนักกับคุณ ดังนั้นคุณจะต้องพกพาอาวุธหนักเพื่อยิงตอบโต้กลับไป รวมถึงต้องมีการป้องกันที่เหมาะสมด้วย” คาเซเนิฟ บอกกับบรรดาเจ้าหน้าที่ในสถานีตำรวจปารีส      ตำรวจหน่วยต่อต้านอาชญากรรม (บีเอซี) ที่มักจะปฏิบัติการในชุดสวมใส่ธรรมดา จะได้รับไรเฟิลจู่โจม “Heckler & Koch G36” จำนวน 204 กระบอก, เสื้อเกราะกันกระสุน 1,800 ตัว, โล่กันกระสุนปืนคาลาชนิคอฟ 241 อัน อุปกรณ์ใหม่เหล่านี้ยังรวมถึงปืนไฟฟ้า “เทเซอร์” กับของอื่นๆ รวมทั้งสิ้นมีมูลค่าราว 17 ล้านยูโร…