อิสราเอลโจมตีทางอากาศ ถล่มกาซา ดับ 12 ศพ รวม 3 ผบ.กลุ่มติดอาวุธญิฮาด ถูกปลิดชีพ

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศเข้าใส่เมืองกาซา เขตปกครองตนเองของชาวปาเลสไตน์ สังหารผู้บัญชาการของกลุ่มติดอาวุธญิฮาดเสียชีวิต 3 นาย และทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตด้วยอย่างน้อย 6 ราย รวมถึงเด็ก ๆ ในปฏิบัติการที่อิสราเอลอ้างว่าพุ่งเป้าโจมตีผู้บัญชาการระดับสูง 3 นายของกลุ่มอิสลามิกญิฮาด ที่เป็นกองกำลังติดอาวุธที่ทรงอิทธิพลเป็นอันดับ 2 ในดินแดนปาเลสไตน์ ดินแดนปกครองตนเองที่อยู่ในความควบคุมของกลุ่มฮามาส กองกำลังติดอาวุธมุสลิม   นายยูอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล กล่าวว่า ผู้ก่อการร้ายคนใดที่ทำอันตรายต่อพลเมืองอิสราเอลจะต้องเสียใจ และกล่าวว่า กองทัพอิสราเอลทำงานร่วมกับชินเบ็ท หน่วยข่าวกรอง ในการเล็งเป้าหมายโจมตีผู้นำกลุ่มติดอาวุธอิสลามิกญิฮาดในกาซาได้อย่างแม่นยำ   ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกาซาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 20 คน ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเข้าใส่ชุมชนที่พักอาศัยในเมืองกาซา   ขณะที่กลุ่มติดอาวุธอิสลามิกญิฮาดยืนยันยันว่าผู้บัญชาการของกลุ่มตนถูกสังหารดับ 3 นาย คือ ญิฮาด กันนัม คาลิล อัล-บาห์ตินี และ ทาเร็ก อิซเซลดีน แต่กลุ่มตนจะไม่ทิ้งที่มั่นและจะยืนหยัดต่อสู้ต่อไป  …

อิสราเอลห้ามชั่วคราว “คนยิว-นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เข้ามัสยิด “อัล-อักซอ”

Loading

  “เฉพาะชาวมุสลิม” ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่มัสยิดอัล-อักซอ ในนครเยรูซาเลม จนกว่าเดือนรอมฎอนจะสิ้นสุด ตามการประกาศของอิสราเอล ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดรอบใหม่กับปาเลสไตน์   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ว่า ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศคำสั่งของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ไม่อนุญาตให้ชาวยิวและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเยี่ยมชมมัสยิดอัล-อักซอ ที่นครเยรูซาเลม จนกว่าจะสิ้นสุดเดือนรอมฎอน คือวันที่ 20 เม.ย. ที่จะถึงนี้ หมายความว่า จะมีเพียง “ชาวมุสลิม” ซึ่งจะเข้าไปภายในมัสยิดแห่งนี้ได้   ICYMI: Jewish visitors and tourists will be banned from the al-Aqsa Mosque compound in #Jerusalem until the end of the holy Muslim month of Ramadan,…

ตะวันออกกลางร้อนฉ่า “ตำรวจจลาจลยิว” บุกเข้ามัสยิดอัลอักศอ “ยิงระเบิดแสง-แก๊สน้ำตา” ถึงข้างใน จับไม่ต่ำกว่า 350

Loading

    เอเจนซีส์ – ตำรวจปราบจลาจลอิสราเอลบุกเข้ามัสยิดอัลอักศอชื่อดัง เช้าวานนี้ (4 เม.ย.) เปิดฉากยิงระเบิดแสงและแก๊สน้ำตาด้านในระหว่างปะทะกับชาวปาเลสไตน์ผู้แสวงบุญ มีรายงานกวาดจับไปไม่ต่ำกว่า 350 คน     สกายนิวส์ สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (5 เม.ย.) ว่า การบุกเข้ามัสยิดอัลอักศอเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังชายชาวปาเลสไตน์โดนสังหารด้านนอกมัสยิด ทั้งนี้ หลังการบุกเข้ามัสยิดชื่อดังที่เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของโลกมุสลิมเช้าวันพุธ (4) ที่มีการยิงระเบิดแสงและแก๊สน้ำตาด้านในระหว่างตำรวจปราบจลาจลอิสราเอลปะทะกับกลุ่มผู้แสวงบุญปาเลสไตน์     CNN ของสหรัฐฯ รายงานว่า หลังการปะทะมีผู้ถูกจับกุมไม่ต่ำกว่า 350 คน โดยภาพที่ถูกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่า ตำรวจอิสราเอลใช้ความรุนแรงทุบทำร้ายผู้แสวงบุญด้วยกระบองอย่างป่าเถื่อน พยานในเหตุการณ์เปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ ว่า ตำรวจยังทุบทำลายประตู และหน้าต่างของมัสยิดศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับยิงระเบิดแสงและกระสุนยางใส่ฝ่ายตรงข้าม   ขณะที่สกายนิวส์รายงานว่า องค์การเสี้ยวเดือนแดงปาเลสไตน์เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 12 คน และถูกจับอีกหลายสิบคน     ทั้งนี้ เหตุเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้แสวงบุญปาเลสไตน์ไม่กี่ร้อยคนยังรวมตัวอยู่ด้านในหลังจากทำพิธีเทศกาลรอมฎอนคืนวันอังคาร (3) แต่ทางตำรวจอิสราเอลอ้างว่า พวกเขาพยายามเคลียร์นำคนเหล่านี้ออกไปอย่างสงบแต่ว่ามีกลุ่มเล็ก ๆ…

เหตุจลาจลในเวสต์แบงก์ หลังชาวอิสราเอลถูกสังหาร

Loading

    สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ยังคงทวีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองโดยอิสราเอลอย่างเขตเวสต์แบงก์ ความขัดแย้งล่าสุด เกิดขึ้นหลังชาวอิสราเอล 2 รายถูกสังหารโดยมือปืนชาวปาเลสไตน์ขณะกำลังเดินทางเข้าไปในเขตเวสต์แบงก์ ทำให้เกิดเหตุจลาจลตามมา   วานนี้ 26 ก.พ. เกิดเหตุมือปืนชาวปาเลสไตน์คนหนึ่งยิงชาวอิสราเอล 2 รายเสียชีวิตบนรถของตนเองในหมู่บ้านฮาวาราของเขตเวสต์แบงก์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวปาเลสไตน์และผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลอยู่บ่อยครั้ง   ชายที่เสียชีวิตทั้ง 2 รายพี่น้องกัน มีอายุราว 20 ปี และเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ หนึ่งในนี้ยังเป็นทหารอีกด้วย   กองทัพอิสราเอลระบุว่าได้ปิดพื้นที่และเร่งไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งส่งทหารอิสราเอลเข้าไปในเขตเวสต์แบงก์เพื่อดูแลความเรียบร้อยแล้ว     หลังเกิดเหตุการณ์ ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ไม่พอใจ จึงบุกเข้าไปในหมู่บ้านฮาวารา ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงจุดไฟเผาบ้านและรถยนต์ของชาวปาเลสไตน์ในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นการแก้แค้น บ้านเรือนและร้านค้าสิบกว่าแห่ง รวมถึงรถยนต์กว่า 15 คันถูกเผาทำลาย   นอกจากนี้ยังเกิดการปะทะรุนแรงระหว่างผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอล และชาวปาเลสไตน์อีกด้วย กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ระบุว่า เหตุจลาจลที่เกิดขึ้น ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่าร้อยคน และมีชาวปาเลสไตน์ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย   ขณะที่กองทัพอิสราเอลได้เข้าควบคุมสถานการณ์แล้วและอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย   ด้านนายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลได้ออกมาเรียกร้องความสงบและขอให้ชาวอิสราเอลยุติการโจมตีเพื่อแก้แค้นให้กับชายชาวอิสราเอลที่ถูกสังหาร พร้อมยืนยันว่ากองกำลังอิสราเอลจะจับตัวฆาตกรมาลงโทษให้ได้…

ชาวยิวชุมนุมใหญ่ใน 3 เมือง ต่อต้าน “นโยบายขวาจัด” ของเนทันยาฮู

Loading

  ประชาชนในเมืองใหญ่ 3 แห่งของอิสราเอล พร้อมใจกันจัดการประท้วง ต่อต้านนโยบายหลายด้าน ที่ประกาศโดยรัฐบาลขวาจัดของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ว่า การประท้วงต่อต้านรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งกลับมานำรัฐบาลขวาจัดที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล โดยเข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว เกิดขึ้นในเมืองใหญ่สามแห่ง ได้แก่ กรุงเทลอาวีฟ นครเยรูซาเลม และเมืองไฮฟา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา   ด้านสื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานโดยอ้างเป็นสถิติของตำรวจ ว่า จำนวนประชาชนเข้าร่วมการประท้วงในเมืองทั้งสามแห่ง มีจำนวนรวมกันไม่ต่ำกว่า 80,000 คน ถือเป็นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอิสราเอลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ   ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการเดินขบวนร่วมกันชูแผ่นป้ายข้อความ ที่มีเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านฟาสซิสต์ คัดค้านการเหยียดผิว และแสดงความกังวลต่อการที่ “ประชาธิปไตยของอิสราเอลกำลังตกอยู่ในอันตราย” ตลอดจน “การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม”         นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการชุมนุมจำนวนไม่น้อยชูธงชาติปาเลสไตน์ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ต่อต้านการที่ นายอิตามาร์ เบน-กวีร์ รมว.ความปลอดภัยแห่งชาติของอิสราเอล…

“มัสยิดอัล-อักซอ” ชนวนขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์

Loading

  แนวโน้มความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์อาจปะทุขึ้นอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ หลังรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ที่เพิ่งจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ได้เดินทางไปยังมัสยิดอัล-อักซอ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมที่ตั้งอยู่ในบริเวณเมืองเก่าของนครเยรูซาเลม และยังเป็นหนึ่งในพื้นที่เปราะบางที่สุดในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้กลุ่มฮามาสออกมาประณามและระบุว่าการกระทำนี้เป็นการยั่วยุ และ เหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่หรือไม่   ภาพของรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ “อิตามาร์ เบน กวีร์” ที่กำลังเดินเข้าไปในบริเวณมัสยิดอัล-อักซอ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของนครเยรูซาเล็ม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น     เบน กวีร์เป็นหนึ่งในคนที่มีแนวคิดขวาจัด เขามาจากพรรคพลังชาวยิว (Jewish Power) ซึ่งเป็นพรรคพันธมิตรลัทธิไซออนิสต์เคร่งศาสนา และเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา   มีรายงานว่าเบน กวีร์ เดินทางไปมัสยิดอัล-อักซอในช่วงเวลาเช้าตรู่ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการละหมาด   เบน กวีร์ใช้เวลาอยู่ภายในมัสยิดอัล-อักซอไม่นาน ก่อนจะทวีตภาพตัวเองบนบัญชีทวิตเตอร์พร้อมกับเขียนข้อความที่มีระบุถึง Temple Mount หรือ เนินพระวิหาร ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวยิวใช้เรียกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้   เขาให้สัมภาษณ์สั้นๆ กับสื่อมวลชน ระบุว่า รัฐบาลอิสราเอลจะไม่ยอมยกสถานที่แห่งนี้ให้กับองค์กรอาชญากรรม   โฆษกของกลุ่มฮามาส ซึ่งปกครองพื้นที่ฉนวนกาซาของปาเลสไตน์ออกมาแถลงการณ์ประณามทันที…