จีนทุ่มทุน 6,300 ล้านดอลลาร์สำหรับสงครามข่าวสารข้อมูลระดับโลก

Loading

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว YouTube ประกาศปิดช่อง YouTube 210 ช่องที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยเรื่องการทำงานอย่างประสานกันเพื่ออัพโหลดวิดีโอเกี่ยวกับการประท้วงในฮ่องกง โดย YouTube สันนิษฐานว่าช่องทางเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ด้านข่าวสารข้อมูลที่ปักกิ่งหนุนหลังอยู่เพื่อครอบงำมติมหาชนเกี่ยวกับการประท้วงในฮ่องกง ก่อนหน้านี้ราวหนึ่งสัปดาห์ Twitter กับ Facebook ก็ได้สั่งระงับการเผยแพร่ข้อมูลที่มีแนวทางบิดเบือน เช่นเปรียบเทียบกลุ่มที่ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในฮ่องกงว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายของรัฐอิสลาม โดย Twitter ได้ปิดบัญชี 936 บัญชีที่เริ่มส่งข้อความจากในประเทศจีน และ Facebook ก็ได้ยกเลิก 27 เพจ 3 กลุ่ม และอีก 5 บัญชีซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ Facebook เรียกว่าเป็นพฤติกรรมเสแสร้งและมีการทำงานอย่างประสานสอดคล้องกันด้วย ถึงแม้ว่าการตัดสินใจของบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ใหญ่ทั้งสามจะไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนัก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อก็เตือนว่ายังมีงานที่รอให้ต้องทำอยู่อีกมาก เพราะขณะนี้การรณรงค์ระดับโลกของจีนเพื่อควบคุมข่าวสารข้อมูลไร้พรมแดนเป็นไปอย่างกว้างขวางทั้งยังคุกคามเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาธิปไตยทั่วโลกด้วย โดยคุณ Cedric Alviani ผู้อำนวยการของหน่วยงานผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนประจำเอเชียตะวันออกที่กรุงไทเปเรียกร้องให้สาธารณชนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับแหล่งที่มาของข่าวสารข้อมูลที่ได้รับ รวมทั้งช่วยรายงานเนื้อหาที่เห็นว่านำเสนอภาพหรือเหตุการณ์ที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริงอย่างจงใจ เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนดังกล่าวได้ออกรายงานเกี่ยวกับความพยายามของจีนเพื่อสร้างระเบียบความสัมพันธ์ของสื่อในโลกยุคใหม่ และชี้ว่าการโฆษณาชวนเชื่อรวมทั้งการบิดเบือนความจริงนับเป็นเครื่องมือที่สำคัญของรัฐบาลกรุงปักกิ่งที่ใช้กับผู้ตำหนิวิจารณ์ตน อย่างไรก็ตามข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของจีนด้านปฏิบัติการข่าวสารข้อมูลระดับโลกก็คือ ในขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ที่สำคัญของสหรัฐ เช่น Facebook, Twitter และ YouTube นั้นไม่สามารถใช้งานอย่างเป็นทางการได้ในประเทศจีน สื่อสังคมของจีนเองเช่น Weibo และ WeChat สามารถมีบทบาทได้ทั่วโลกและมักได้รับอิทธิพลด้านเนื้อหาจากสื่อต่างๆ…

สงครามไซเบอร์มาแล้ว กองทัพสหรัฐเตรียมโจมตีระบบเครือข่ายส่งไฟฟ้ารัสเซีย

Loading

หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานข่าววงในว่ารัฐบาลสหรัฐ เตรียมโจมตีระบบโครงข่ายไฟฟ้าของรัฐบาลรัสเซีย เพื่อตอบโต้การแทรกแซงการเลือกตั้งของหน่วยข่าวกรองรัสเซียตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาเพิ่งยกระดับกองบัญชาการไซเบอร์ (US Cyber Command) เป็นกองบัญชาการรบเต็มขั้น เมื่อปี 2018 และมีอำนาจเพิ่มขึ้นในการปฏิบัติการทางไซเบอร์ ตามข่าวบอกว่า US Cyber Command ได้แทรกซึมเข้าไปยังระบบคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมระบบโครงข่ายไฟฟ้า (กริด) ของรัสเซียแล้ว แต่ก็ไม่มีข้อมูลเชิงลึกว่าเข้าได้มากแค่ไหน และยังไม่มีรายงานว่าสหรัฐเคยเข้าไปปิดระบบไฟฟ้าของรัสเซีย ที่ผ่านมา หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐมักเล่นบทบาทในเชิงป้องกัน มากกว่าโจมตี แต่ช่วงหลังก็มีเสียงเรียกร้องให้สหรัฐมีท่าทีเชิงรุกมากขึ้น John R. Bolton ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Advisor) ของประธานาธิบดี Donald Trump เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐสามารถแสดงให้รัสเซียหรือประเทศใดๆ ก็ตามเห็นว่า หากเข้ามาปฏิบัติการไซเบอร์ต่อสหรัฐ ก็ย่อมต้องมีสิ่งที่ต้องจ่ายออกไป ——————————————————————– ที่มา : Blognone / 16 June 2019 Link : https://www.blognone.com/node/110367