ศาลฮ่องกงส่ง ‘5 ผู้เยาว์’ เข้าสถานพินิจ ฐานพยายามล้มอำนาจรัฐ

Loading

  ศาลฮ่องกงตัดสินให้จำเลย 5 คน ซึ่งล้วนเป็นผู้เยาว์ รับโทษในสถานพินิจ ฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคง ด้วยการเคลื่อนไหวเรียกร้อง การโค่นอำนาจรัฐบาลกลาง ในกรุงปักกิ่ง   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ว่า ศาลฮ่องกงมีคำพิพากษา เมื่อวันเสาร์ ให้จำเลย 5 คน ในจำนวนนี้ รวมถึงผู้เยาว์อายุระหว่าง 15-18 ปี รับโทษในสถานพินิจเป็นเวลานานสูงสุด 3 ปี ฐานกระทำผิดกฎหมายความมั่นคง ด้วยการเคลื่อนไหวปลุกระดมให้มีการโค่นล้มอำนาจรัฐ ผ่านการรวมกลุ่มซึ่งเรียกตัวเองว่า “Returning Valiant”   ขณะที่จำเลยอีกสองคนในคดีเดียวกัน ซึ่งมีอายุ 21 ปี และ 26 ปี ได้รับการพิพากษาให้มีความผิดเช่นกัน และศาลจะประกาศบทลงโทษอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้พิพากษากล่าวว่า ความพยายามของจำเลยกลุ่มนี้ ในการเคลื่อนไหวเรียกร้อง “การปฏิวัติอันนองเลือด” เพื่อหวังโค่นล้มอำนาจของรัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่ง ถือเป็น “การกระทำผิดทางอาญาอย่างร้ายแรง”   Five teenagers…

คาดอีก 5 ปี ญี่ปุ่นผงาดอันดับ 3 มหาอำนาจทางการทหาร รองแค่สหรัฐฯ-จีน

Loading

เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นซ้อมรบต่อต้านเรือดำน้ำไตรภาคี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปราบปรามภัยคุกคามทางทหารของเกาหลีเหนือ (ภาพโดยกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้)   army-technology.com สื่อผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีการทหาร คาดอีก 5 ปี #ญี่ปุ่นผงาดอันดับ 3 มหาอำนาจทางการทหาร รองแค่สหรัฐฯ-จีน แต่ความร่วมมือแบบ ‘ทวิภาคี’ จะมีหน้าที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยทั่วโลกหรือไม่?   แอนดริว ซาเลอโน-การ์ธเวท (Andrew Salerno-Garthwaite) คอลัมนิสต์สื่อเทคโนโลยีการทหาร ประเมินว่า หากญี่ปุ่นบรรลุเป้าหมายด้านงบประมาณในอีก 5 ปีข้างหน้า ญี่ปุ่นจะเปลี่ยนจากชาติมหาอำนาจทางทหารที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับที่ 5 หรือ 7 ในแง่งบประมาณการใช้จ่ายด้านการป้องกันตามลำดับ ทะยานขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียง สหรัฐฯ และจีน   ตามข้อมูลของ GlobalData ค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 5.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า เป็น 7.04 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2027 ซึ่งเติบโตต่อปีที่ 7.3%   หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชิเงรุ…

เวียดนามเตรียมออกกฎจำกัดการโพสต์ข่าวบนโลกออนไลน์

Loading

  รัฐบาลเวียดนาม กำลังเตรียมกฎใหม่เพื่อจำกัดการโพสต์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารของบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่ทางการกระชับการควบคุมแหล่งข่าวและแหล่งข้อมูลในประเทศ   สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ว่า กฎระเบียบใหม่ ซึ่งคาดว่าจะถูกประกาศภายในสิ้นปีนี้ แม้ว่ายังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด จะเป็นการสร้างพื้นฐานทางกฎหมาย สำหรับการควบคุมการเผยแพร่ข่าวบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก และยูทูบ และกำหนดภาระการดูแลที่สำคัญต่อผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม   ตามข้อมูลของแหล่งข่าว เจ้าหน้าที่รัฐได้จัดการประชุมลับกับสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม และบริษัทอินเทอร์เน็ตหลายแหล่ง เพื่อสรุปถึงประเภทของบัญชีที่จะได้รับอนุญาตให้โพสต์เนื้อหาข่าวภายใต้กฎใหม่ และทางการยังสามารถสั่งให้บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ ระงับบัญชีที่ฝ่าฝืนกฎเหล่านั้นได้อีกด้วย   EXCLUSIVE Vietnam preparing rules to limit news posts on social media accounts – sources https://t.co/UfcDDpE9Wa pic.twitter.com/qXssJ7qGJS — Reuters (@Reuters) September 29, 2022   นอกจากนี้ แหล่งข่าว…

ควบคุม ‘NGO ต่างชาติ’ อินโดฯ ออกกฎหมายจัดระเบียบ เหตุหวั่นถูกแทรกแซงกิจการภายใน

Loading

  รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังถูกบีบให้ยกระดับกฎหมายจัดระเบียบองค์กร NGO ต่างชาติที่ดำเนินงานในประเทศให้มีความเข้มงวดมากขึ้น   มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลอินโดนีเซีย เริ่มตรวจสอบกิจกรรมขององค์กร NGO ต่างชาติเพื่อให้แน่ใจว่าปฏิบัติตามกฎหมาย จากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมขององค์กรเหล่านั้น และการแทรกแซงเรื่องความขัดแย้งในปาปัว กรณีการสร้างเขตปกครองตนเองใหม่ โดยการให้เงินทุนและการสนับสนุนด้านลอจิสติกส์   กลุ่มผู้เรียกร้องให้เหตุผลว่า กฎหมายจัดระเบียบองค์กร NGO ต่างชาติผิดกฎหมายของภาครัฐนั้นอ่อนเกินไป เนื่องจากไม่สามารถจัดการกับการแทรกแซงกิจการภายใน รวมถึงโฆษณาชวนเชื่อเชิงลบต่ออุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในประเทศ   ครั้งนี้รัฐบาลจะต้องเข้มงวดและมีความเป็นอิสระมากขึ้นในการกำหนดกฎหมายจัดระเบียบ NGO โดยอย่าได้ถูกยั่วยุ จนหลงกลติดกับดักที่ NGO ต่างชาติผิดกฎหมายได้วางไว้” Sofjan Wanandi ประธานของ คณะกรรมการที่ปรึกษาสมาคมนายจ้างชาวอินโดนีเซีย (Apindo) กล่าว   ทั้งนี้ ส.ส. Firman Subagyo ได้เรียกร้องให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติอินโดนีเซีย (BIN) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สอบสวนกิจกรรมขององค์กร NGO ต่างชาติที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ หากมีกิจกรรม NGO ใด ๆ ที่เป็นภัยต่อเสถียรภาพทางการเมืองของชาติ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการทางกฎหมายทันที     อ้างอิง :…

จีนเรียกร้องพันธมิตร ร่วมกันป้องกันการแทรกแซง “จากภายนอก”

Loading

  ผู้นำจีนกล่าวต่อที่ประชุมองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เรียกร้องสมาชิกรวมถึงรัสเซียและอินเดีย ร่วมกันยับยั้งการแทรกแซงทางการเมืองจากภายนอก และยกระดับความมั่นคงร่วมกัน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซามาร์กันด์ ประเทศอุซเบกิสถาน เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้งผิง ผู้นำจีน กล่าวต่อที่ประชุม องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (เอสซีโอ) ที่เมืองซามาร์กันด์ ในอุซเบกิสถาน เรียกร้องรัสเซียและสมาชิกเอสซีโอ สนับสนุนซึ่งกันและกันด้วยความแข็งแกร่ง เพื่อป้องปราม “การใช้อำนาจจากภายนอกกระตุ้นให้เกิดการปฏิวัติสี” ภายในประเทศสมาชิก ซึ่งหมายถึงการลุกฮือของประชาชนที่ได้รับอิทธิพลทางความคิด “จากกระแสโลกาภิวัตน์”   ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย   ทั้งนี้ ผู้นำจีนไม่ได้กล่าวถึงยูเครนตลอดการแถลงต่อที่ประชุมเอสซีโอ แต่ประกาศเพิ่มเติมด้วยว่า รัฐบาลปักกิ่งพร้อมมอบความสนับสนุนด้านการฝึกฝนทางยุทธวิธี มุ่งเน้นภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย ให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 2,000 นาย จากประเทศสมาชิกเอสซีโอ ภายในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้   นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย   China's Xi urges Russia and other countries…

สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ 4 บริษัทเทคฯต่างชาติ พัฒนาสปายแวร์เจาะล้วงข้อมูล

Loading

  สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ 4 บริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ ฐานพัฒนาและจัดหาสปายแวร์เจาะล้วงข้อมูลให้กับรัฐบาลต่างชาติ และว่าระบบดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้เพื่อมุ่งเป้าโดยมีเจตนาร้ายและเป็นอันตราย ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ สื่อมวลชน นักธุรกิจ นักเคลื่อนไหว และนักวิชาการ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหาว่าบริษัททั้ง 4 แห่ง ได้แก่ NSO Group และ Candiru ของอิสราเอล บริษัท Positive Technologies ของรัสเซีย และบริษัท Computer Security Initiative Consultancy PTE. LTD. ของสิงคโปร์ เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ขัดต่อความมั่นคงของชาติหรือขัดต่อผลประโยชน์ด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ บริษัททั้ง 4 แห่งจะเผชิญกับมาตรการกีดกันการส่งออกสินค้าและบริการมายังสหรัฐฯ ที่เข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งบริษัทด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ จะขายข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสินค้าและบริการของบริษัทเหล่านี้ได้ยากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า นี่เป็นความพยายามในการปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยในโลกดิจิทัล การต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์ และลดโอกาสการสอดส่องเฝ้าระวังที่ผิดกฎหมายสำหรับประชาชน ตามรายงานของรอยเตอร์ บริษัททั้ง 4 ไม่ได้ให้ความเห็นต่อการถูกขึ้นบัญชีดำจากรัฐบาลสหรัฐฯในครั้งนี้   (มีเนื้อหาบางส่วนจากรอยเตอร์)   —————————————————————————————————————————————————– ที่มา…