‘ออสเตรเลีย – ไทย’ หารือความเสี่ยงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

Loading

  ออสเตรเลียร่วมกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติของไทย (สมช.) จัดการหารือว่าด้วยเรื่องความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ระหว่างออสเตรเลีย และไทย ระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤษภาคม 2565 ผู้เชี่ยวชาญ และผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน ได้ร่วมหารือถึงการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญระหว่างออสเตรเลีย และไทยอย่างยั่งยืน รวมถึงการแจกแจงและจัดการความเสี่ยงทั้งของภาครัฐและเอกชน การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอย่างมีประสิทธิภาพมีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งรวมถึงการจัดการโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ และระบบดิจิทัลที่มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งหลายประเทศต้องพึ่งระบบเหล่านี้ในการบริหารจัดการ นายอัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ได้กล่าวว่า บทเรียนสำคัญจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้เห็นถึงว่าโครงสร้างพื้นฐานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัย และความมั่นคงของประเทศ ” เราถือเป็นโอกาสที่สำคัญที่จะได้ร่วมงานกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติของไทย ในการแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญรวมถึงการแจกแจง และจัดการความเสี่ยงเหล่านั้น” เอกอัครราชทูตออสเตรเลียยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียบพร้อมในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าบีทีเอส เขื่อนภูมิพล ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ แต่กระนั้นก็ยังต้องจัดการความเสี่ยงหลายอย่างต่อโครงสร้างพื้นฐานเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นการเอ่อล้นของแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงการขโมยข้อมูลการเงินทางไซเบอร์ นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศเนื่องจากจะเกิดผลกระทบต่อความปลอดภัย และการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนในวงกว้าง หากเกิดการหยุดชะงักของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ โดยตั้งแต่ในอดีตจนถึงจนปัจจุบัน สมช. ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และหน่วยงานต่างประเทศมาโดยตลอด…

มือระเบิดฆ่าตัวตายปากีสถานเตรียมบึ้มคนจีนซ้ำ

Loading

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีรถตู้ของครูชาวจีน และผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อ 3 คน ที่มหาวิทยาลัยเมืองการาจี เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2565 – ภาพซินหัว โกลบอลไทมส์/สื่อต่างประเทศ – กลุ่มก่อการร้ายในปากีสถานตามราวีไม่เลิก โดยหลังจากส่งหญิงสวมผ้าคลุมศีรษะเดินขึ้นรถตู้ ระเบิดบึ้มครูชาวจีนประจำสถาบันขงจื่อ ซึ่งนั่งอยู่ในรถจอดนอกมหาวิทยาลัยเมืองการาจีดับ 3 คน เมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ยังเตรียมส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงปฏิบัติการโหดอีกครั้ง แต่หน่วยข่าวกรองไหวทันเสียก่อน ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของปากีสถานบุกจับกุมหญิงคนหนึ่งในเมืองโฮชับ แคว้นบาลูจิสถาน หญิงผู้นี้วางแผนระเบิดฆ่าตัวตาย เล็งเป้าหมายขบวนรถของชาวจีน ซึ่งมาทำงานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน โดยเจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์ระเบิดเป็นหลักฐานมัดตัว เจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นมือระเบิดแก๊งเดียวกับที่ก่อเหตุในเมืองการาจี คือกองทัพปลดปล่อยบาลูจิสถาน หรือบีแอลเอ (Balochistan Liberation Army : BLA) โดยการตามล่าสมาชิกคนอื่นๆ ที่ร่วมก่อเหตุ กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น การสกัดแผนโจมตีครั้งนี้มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ (16 พ.ค.) วันเดียวกับที่นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ของจีนได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถาน กำชับให้ปากีสถานนำตัวผู้ก่อเหตุสังหารชาวจีนในเมืองการาจี มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด พร้อมกับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสถาบัน และพลเมืองของจีนในปากีสถาน…

‘ไบเดน’ ระบุเหตุยิงกราดซูเปอร์มาร์เก็ตรัฐนิวยอร์กเป็น ‘การก่อการร้ายในประเทศ’

Loading

President Joe Biden and first lady Jill Biden visit the scene of a shooting at a supermarket to pay respects and speak to families of the victims of Saturday’s shooting in Buffalo, N.Y.   ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่าเหตุยิงกราดซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นการก่อการร้ายในประเทศ ที่มีต้นตอมาจากลัทธิแนวคิดสุดโต่งชาตินิยมผิวขาว ผู้นำสหรัฐฯ และสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้พบปะกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ในเหตุการณ์ที่ เพย์ตัน เกนดรอน คนร้ายชายผิวขาววัย 18 ปี ก่อเหตุยิงใส่ผู้คนที่ร้าน Tops Friendly…

เผยมือกราดยิงโบสถ์แคลิฟอร์เนียมีเชื้อสายจีน ก่อเหตุเพราะเกลียดไต้หวัน

Loading

  เอฟบีไอจ่อสอบเหตุกราดยิงโบสถ์รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ในฐานะคดีอาชญากรรมจากความเกลียดชัง หลังพบว่ามือปืนมีเชื้อสายจีน และมีความโกรธแค้นไต้หวัน ความคืบหน้าเหตุคนร้ายบุกเข้าไปกราดยิงภายในโบสถ์เจนีวา เพรสไบทีเรียน (Geneva Presbyterian) เมืองลากูนา วูดส์ (Laguna Woods) ระหว่างที่คริสตชนชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวันประมาณ 30-40 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ กำลังรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน     ล่าสุด เจ้าหน้าที่เผยว่าผู้ก่อเหตุ คือ นาย เดวิด โจว วัย 68 ปี เป็นพลเมืองอเมริกันที่อพยพมาจากจีน ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและพักอาศัยอยู่ในนครลาสเวกัส     จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า นายโจววางแผนก่อเหตุมาเป็นอย่างดี มีการซ่อนกระเป๋าใส่ระเบิดขวด และกระสุนสำรองไว้ตามจุดต่าง ๆ รอบโบสถ์ ซึ่งหลังจากบุกเข้าไปด้านใน คนร้ายได้ใช้โซ่และกาวปิดล็อกประตูไว้ ก่อนเปิดฉากยิงด้วยปืนสั้น 2 กระบอก     ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ (FBI) เตรียมเปิดการสืบสวนในฐานะคดีอาชญากรรมจากความเกลียดชัง หลังเชื่อว่าคนร้ายมีแรงจูงใจจากความเกลียดชังไต้หวัน โดยจากการตรวจค้นรถยนต์ พบบันทึกเขียนด้วยภาษาจีนกลาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาหมกมุ่นเรื่องไต้หวัน…

สหรัฐช็อกอีก มือปืนกราดยิง ที่โบสถ์แคลิฟอร์เนีย เหยื่อเป็นชาวเอเชีย

Loading

  วันที่ 16 พ.ค. เอเอฟพี รายงานว่า มือปืนกราดยิง ที่โบสถ์เจนีวา เพรสไบทีเรียน ใกล้นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 5 คน ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 4 คน   An Orange County Sheriff’s Department officer guards the grounds at Geneva Presbyterian Church in Laguna Woods, Calif., Sunday, May 15, 2022, after a fatal shooting. (AP Photo/Damian Dovarganes)   เหตุการณ์เกิดขึ้นราว 13.30 น. วันที่…

มะกันช็อก! หนุ่มผิวขาววัย 18 ยิงดับ 10 ศพกลางห้างของชำในนิวยอร์ก คาด ‘สีผิว’ คือปมสังหาร

Loading

  หนุ่มผิวขาววัย 18 ปี ก่อเหตุยิงผู้คนเสียชีวิต 10 ราย และบาดเจ็บ 3 คน ในห้างขายของชำแห่งหนึ่ง ย่านถิ่นคนผิวสี ในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ก่อนยอมมอบตัวต่อตำรวจ ในเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เรียกว่าเป็นฝีมือของพวกหัวรุนแรงที่มีแรงจูงใจทางผิวสี เจ้าหน้าที่บอกว่าผู้ต้องสงสัยที่ใช้ปืนไรเฟิลจู่โจมเป็นอาวุธและดูเหมือนว่าจะลงมือเพียงลำพัง ขับรถจากบ้านพักในเคาน์ตีแห่งหนึ่งในรัฐนิวยอร์ก มุ่งหน้าสู่เมืองบัฟฟาโล ที่อยู่ห่างออกไปหลายชั่วโมง เพื่อดำเนินการโจมตีในตอนบ่ายวันเสาร์ (14 พ.ค.) โดยระหว่างนั้นเขาได้ถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ตด้วย จากทั้งหมด 13 คนที่ถูกยิง มีอยู่ 11 คนที่เป็นคนผิวสี ส่วนอีก 2 คนเป็นคนผิวขาว อย่างไรก็ตาม ปมขุ่นข้องหมองใจด้านสีผิวจนนำมาซึ่งความตายนั้นยังไม่มีความชัดเจน และเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยชื่อของมือปืนรายนี้ ตอนเผชิญหน้ากับบรรดาเจ้าหน้าที่ในร้านขายของชำ ผู้ต้องสงสัยเอาปืนจี้คอของตนเอง แต่เจ้าหน้าที่เกลี้ยกล่อมจนเขายอมวางอาวุธและยอมมอบตัว จากการเปิดเผยของ เจเซฟ กรามากเลีย ผู้บัญชาการตำรวจบัฟฟาโลระบุระหว่างแถลงข่าว     กรามากเลีย บอกว่ามือปืนยิงสังหารเหยื่อ 3 รายในบริเวณลานจอดรถของร้าน Tops Friendly Market ก่อนดวลปืนกับอดีตตำรวจซึ่งทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทางร้าน แต่ผู้ต้องสงสัยรอดมาได้ เนื่องจากสวมเสื้อเกราะกันกระสุน…