เกิดเหตุระเบิดที่สุเหร่าในปากีสถาน ตายอย่างน้อย 59 ราย พุ่งเป้าสังหารตำรวจ

Loading

    เหตุระเบิดที่สุเหร่าแห่งหนึ่งในเมืองเปชวาร์ของปากีสถานทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 59 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 150 ราย   ส่วนหนึ่งของอาคารได้รับความเสียหาย และเจ้าหน้าที่ทางการบอกว่ามีผู้คนถูกทับอยู่ใต้ซากปรักหักพัง   คนส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเป็นตำรวจ และเชื่อว่าพวกเขาคือเป้าหมายของการโจมตีในครั้งนี้   รายงานเบื้องต้นชี้ว่า ผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ที่แถวหน้าในสุเหร่าก่อนจะระเบิดฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้ และยังไม่มีกลุ่มใดออกมาบอกว่าตัวเองอยู่เบื้องหลัง   มูฮัมหมัด ไอจาซ ข่าน ตำรวจเมืองเปชวาร์ บอกกับสื่อท้องถิ่นว่า มีตำรวจราว 300-400 นายอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ   นายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ออกมากล่าวประณามเหตุโจมตีในครั้งนี้   เขาระบุในแถลงการณ์ว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเหตุในครั้งนี้ “ไม่มีส่วนข้องเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม” และ “คนทั้งประเทศร่วมกันต่อต้านการคุกคามของการก่อการร้าย”   “ผู้ก่อการร้ายต้องการสร้างความหวาดกลัว ด้วยการพุ่งเป้าโจมตีบุคคลที่ปกป้องปากีสถาน” นายกรัฐมนตรีปากีสถาน กล่าว     เหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อราว 13:00 น. เวลาท้องถิ่น (30 ม.ค.) ระหว่างพิธีการละหมาดในเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือใกล้พรมแดนอัฟกานิสถาน   วิดีโอที่ถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียและบีบีซียืนยันแล้วว่าเป็นของจริง…

ผู้ว่าฯ’จะอินเซ็กจี’ ประกาศกฎอัยการศึก หลังสถานที่ราชการ’พญาตองซู’ถูกบุกเผาซ้ำ

Loading

    จากกรณีทหารเมียนมาส่งเครื่องบินแบบ YAK-130 จำนวน 3 ลำ บินมาทิ้งระเบิดโจมตีค่าย บ้านพักของ พ.อ.เพียวลิน หรือ เอวัน หรือ เอ้วา ผบ.บก.ยว.2 /รองผบ.พล.น.2 กกล.DKBA.รวมทั้งบ้านพักกำลังพล กกล.DKBA. และที่ตั้ง บก.พัน.903 สถานที่ฝึก กกล.DKBA./กกล.PDF. ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ บ้านเจ่เชาว์ หรือบ้านเลวะโพ อ.พญาตองซู จ.จะอินเซ็กจี รัฐกะเหรี่ยง เมียนมา ห่างจากชายแดนช่องทางจุดผ่อนปรนทางการค้าชายแดนด่านพระเจดีย์สามองค์ บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ระยะทางประมาณ 25-28 กิโลเมตร ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นเหตุทำให้ กำลังพล กกล.DKBA.พัน.903 ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 นาย ส่วนสถานที่ฝึกและอาคารสถานที่บ้านพักกำลังพลและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา   ต่อมาเวลาประมาณ 22.00…

โดรนโจมตีโรงงานผลิตกระสุนในอิหร่าน หวังสร้างความไม่มั่นคงภายใน

Loading

    โรงงานผลิตกระสุน ทางตอนกลางของอิหร่านระเบิด ท่ามกลางความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์และการจัดหาอาวุธให้กับรัสเซียในสงครามรัสเซีย-ยูเครน   เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองอิสฟาฮาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของอิหร่าน เกิดแสงวาบขึ้นมาที่โรงงานผลิตอาวุธทางทหารแห่งหนึ่งของเมืองดังกล่าว โดยสื่อทางการอิหร่านรายงานว่า โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตกระสุน ขณะที่รัฐบาลเตหะรานเปิดเผยเมื่อวานนี้ (29 ม.ค.) ว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ เกิดจากการโจมตีด้วยโดรนที่ไม่ทราบชื่อผู้ลงมือก่อเหตุ และยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบในทันที แต่สหรัฐฯ ชี้ว่า อิสราเอล อาจอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในครั้งนี้     นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมอิหร่าน ยังรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกของวันเสาร์ (28 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น กองทัพอิหร่านสามารถสกัดการโจมตีด้วยโดรน 3 ลำ ซึ่งมีเป้าหมายคือ สถานที่ทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน โดยเหตุการณ์โจมตีในครั้งนี้้ได้สร้างความเสียหายต่ออาคารเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต   ขณะที่นายฮอสเซน อามีร์ อับดุลลาอิน รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านได้ออกมาประณามการโจมตีดังกล่าวว่า มีเป้าหมายเพื่อสร้างความไม่มั่นคงภายในอิหร่าน พร้อมย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความมุ่งมั่น และความตั้งใจของอิหร่านในการเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์อย่างสันติ   ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างอิหร่าน และชาติตะวันตกเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และการจัดหาอาวุธของอิหร่านให้กับรัสเซียในการใช้ในสงครามในยูเครน   และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในประเทศที่ดำเนินมานานหลายเดือน หลังหญิงชาวเคิร์ดวัย…

ตุรกีเตือนพลเมืองเสี่ยงถูกโจมตีในสหรัฐฯ และยุโรป ตอบโต้คำเตือนของชาติตะวันตก

Loading

    กระทรวงการต่างประเทศตุรกีออกคำเตือน 2 ฉบับ ให้พลเมืองของตนเพิ่มความระมัดระวังการโจมตีที่เกิดขึ้นจากความเกลียดกลัวอิสลาม เกลียดต่างชาติ และเหยียดเชื้อชาติในสหรัฐอเมริกาและยุโรป หลังจากพันธมิตรตะวันตกออกคำเตือนพลเมืองของตนในตุรกีให้เพิ่มความระมัดระวังการโจมตีของผู้ก่อการร้าย และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ   ในถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศตุรกี ระบุให้ชาวตุรกีที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรปอยู่ในความสงบเมื่อเผชิญกับการคุกคามและการโจมตีจากกลุ่มเหยียดเชื้อชาติและอยู่ห่างจากพื้นที่ซึ่งมีการประท้วงที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น การเพิ่มขึ้นของการกระทำที่เป็นการต่อต้านอิสลามและการเหยียดเชื้อชาติสะท้อนให้เห็นถึงมิติที่เป็นอันตรายของการไม่ยอมรับทางศาสนาและความเกลียดชังในยุโรป   ก่อนหน้านี้สถานทูตของสหรัฐฯ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ในตุรกีได้ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัยสำหรับพลเมืองของตน โดยระบุว่ามีความเป็นไปได้กลุ่มก่อการร้ายจะก่อเหตุโจมตีโดยมีเป้าหมายคือศาสนสถาน ส่วนสถานทูตสวีเดนแนะนำให้พลเมืองของตนหลีกเลี่ยงสถานที่ซึ่งกำลังมีการประท้วง โดยในกรณีของสวีเดนยังเกี่ยวข้องกับกรณีที่มีนักการเมืองและกลุ่มแนวคิดขวาจัด มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านอิสลามและเผาคัมภีร์อัลกุรอานที่ด้านหน้าสถานกงสุลตุรกี เพิ่มความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายกันที่เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์กด้วย           ——————————————————————————————————————————————————————– ที่มา :                        จส.100             …

เหตุกราดยิงที่โบสถ์ยิวในเยรูซาเล็ม บาดเจ็บนับสิบ เสียชีวิต 7 ราย

Loading

    เกิดเหตุกราดยิงที่โบสถ์ยิวในเยรูซาเล็มตะวันออก ดับ 7 ราย บาดเจ็บนับสิบคน ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังจากความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์พุ่งสูงขึ้น แต่ล่าสุดยังไม่มีกลุ่มใดออกมาระบุว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว   เกิดเหตุคนร้ายเปิดฉากกราดยิงเข้าใส่ผู้คนบริเวณด้านนอกโบสถ์ยิวในย่านเนเว ยาคอฟ (Neve Yaakov) พื้นที่ของชาวยิวในเขตเยรูซาเล็มตะวันออกที่อิสราเอลยึดครอง เมื่อเวลา 20 นาฬิกา 15 นาทีตามเวลาท้องถิ่น หรือเมื่อประมาณ 01 นาฬิกา 15 นาทีที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนและบาดเจ็บ 10 คน บางคนอาการสาหัส   ด้าน ตำรวจอิสราเอล เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุถูกปลดอาวุธและถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิต พร้อมระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุโจมตีก่อการร้าย     ในการสืบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่อิสราเอล ระบุว่า มือปืนรายหนึ่งรออยู่ในรถจนกระทั่งการประกอบพิธีสวด เนื่องในวันสะบาโต หรือ “ซับบาธ” เสร็จสิ้น ก่อนจะเปิดฉากยิงเข้าใส่ผู้คนที่กำลังเดินออกจากอาคาร พร้อมสันนิษฐานว่า อาจมีผู้ก่อเหตุรายที่ 2 อยู่ในรถ และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวน…

สหรัฐฯสังหาร“บิลาล อัล-ซูดานี” ผู้นำอาวุโสไอซิสในโซมาเลีย

Loading

  กองกำลังสหรัฐฯ สังหาร “บิลาล อัล-ซูดานี” ผู้นำอาวุโสกลุ่มไอซิส หลังต่อต้านการเข้าจับกุมในแหล่งกบดาน   เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (26 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ 2 นาย รายงานว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯ สังหาร “บิลาล อัล-ซูดานี” ผู้นำอาวุโสกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและซีเรีย หรือ ไอซิส (ISIS) ในพื้นที่ห่างไกลทางตอนเหนือของโซมาเลีย ด้วยการโจมตีจากเฮลิคอปเตอร์ ไม่มีพลเรือนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงทหารนายหนึ่งโดนสุนัขทหารที่พามาด้วยกัดเท่านั้น     การโจมตีของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เกิดขึ้นบริเวณถ้ำบนภูเขาในเขตพันต์แลนด์ ทางตอนเหนือของโซมาเลีย หลังเครือข่ายสายลับของสหรัฐฯ พบฐานปฏิบัติการและที่ซ่อนของอัล-ซูดานีพร้อมกลุ่มไอซิสในโซมาเลีย พร้อมเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวเป็นเวลาหลายเดือน   สำหรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษมีแผนจับเป็น อัล-ซูดานี แต่มีการโจมตีใส่อย่างรุนแรงเมื่อมาถึงพื้นที่เป้าหมาย ทำให้ทางสหรัฐฯ ต้องตอบโต้ ส่งผลให้อัล-ซูดานีเสียชีวิต   ก่อนหน้านี้ทางหน่วยปฏิบัติการของสหรัฐฯ โจมตีแหล่งกบดานดังกล่าวและเกือบยึดคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ก ฮาร์ดไดรฟ์ และโทรศัพท์มือถือได้ โดยหวังล้วงข้อมูลของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส (IS) และขัดขวางการก่อการร้ายที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในอนาคต   ทางกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ…