ส่งพฤติกรรมเด็กๆ เจนใหม่ “แคสเปอร์สกี้” พบเด็กจากทั่วโลกมีความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อแชทบอต “AI มีม เกม” ครองกระแสฮิต เตือนไม่ใช่ทุกที่จะปลอดภัยเสมอไป แพลตฟอร์มความบันเทิงมักตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์
“แคสเปอร์สกี้” รายงานว่า ทุกวันนี้เด็กจากทั่วโลกมีความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อแชทบอตที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ในโลกที่เชื่อมต่อถึงกันในปัจจุบัน เด็กๆ มีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลมากกว่าที่เคย การศึกษาเร็วๆ นี้พบว่าเด็กอายุ 8-10 ขวบใช้เวลาบนหน้าจอเฉลี่ย 6 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่เด็กก่อนวัยรุ่น อายุระหว่าง 11-14 ปี ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 9 ชั่วโมงต่อวัน
เนื่องจากชีวิตของเด็กส่วนใหญ่อยู่กับโลกออนไลน์ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของลูกๆ ในพื้นที่ดิจิทัล สิ่งที่เด็กๆ ค้นหา แพลตฟอร์มที่ใช้ และเทรนด์ที่ส่งผลต่อความสนใจและพฤติกรรมเด็กๆ
ทุกๆ ปี เทรนด์ดิจิทัลใหม่ๆ เป็นตัวกำหนดรูปแบบการสำรวจโลกของเด็กๆ จากที่แคสเปอร์สกี้ได้ทำการสำรวจความสนใจทางดิจิทัลของเด็กๆ ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่เดือนพ.ค. 2567 – เม.ย.2568 พบว่าความสนใจในเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ช่วงปี 2566 – 2567 ยังไม่มีแอป AI ปรากฏอยู่ในแอปพลิเคชัน 20 แอปที่ใช้มากที่สุด แต่ปีนี้ “Character.AI” ได้เข้ามาอยู่ในลิสต์แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเด็กๆ
ไม่เพียงแต่สนใจ AI เท่านั้น แต่ยังผสาน AI เข้ากับชีวิตดิจิทัลของตนอย่างจริงจัง คำค้นหาจำนวนมากกว่า 7.5% ของคำค้นหาทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับแชทบ็อต AI นำโดยชื่อที่เป็นที่รู้จัก
เช่น ChatGPT, Gemini และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Character.AI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้สร้างหรือโต้ตอบกับบ็อตที่เลียนแบบตัวละครในจินตนาการหรือตัวละครจริง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากปีที่แล้ว
จากเดิมในรายงานปี 2566 – 2567 คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ AI คิดเป็นเพียง 3.19% ของการค้นหาทั้งหมด คิดเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในปีนี้
‘แชทบอต’ ไม่ปลอดภัยเสมอไป
อย่างไรก็ตาม การโต้ตอบของแชทบอตไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป บอตบางตัวอาจทำให้เด็กๆ ได้รับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์ เป็นข้อมูลที่ผิดพลาด หรือธีมที่ไม่เหมาะกับวัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสร้างหรือปรับแต่งโดยผู้ใช้รายอื่นๆ เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้มักพึ่งพาเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นและอาจขาดการควบคุมอย่างเข้มงวด พ่อแม่จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพูดคุยกับเด็กๆ อย่างเปิดเผยเกี่ยวกับวิธีใช้เครื่องมือ AI และตั้งค่าแอปสำหรับการเลี้ยงลูกแบบดิจิทัลที่ช่วยให้ครอบครัวตระหนักรู้ มีส่วนร่วม และได้รับการปกป้องดูแล
พบด้วยว่า แม้ว่าการค้นหาในปีนี้มีมีมเป็นส่วนน้อย แต่ก็ยังเผยให้เห็นวัฒนธรรมดิจิทัลของเด็กๆ อีกชั้นหนึ่ง มีมยอดนิยมจำนวนมากอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า “brainrot” หรือสมองเน่า อารมณ์ขันที่ไร้สาระและจงใจทำให้เกิดความสับสน ซึ่งแพร่กระจายผ่านวิดีโอสั้นๆ
สำหรับวลีที่ถูกค้นหามากที่สุด ได้แก่ วลีภาษาอิตาลี “tralalero tralala” และแทร็กมีมที่เรียกว่า “tung tung tung sahur” วลีเหล่านี้อาจฟังดูสุ่มสำหรับผู้ใหญ่
แต่สำหรับเด็กหลายๆ คน วลีเหล่านี้เป็นตัวแทนของเรื่องตลกที่แชร์กันและเปลี่ยนจากแพลตฟอร์มหนึ่งไปสู่อีกแพลตฟอร์มหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
‘สตรีมมิง’ กระแสยังดี
หนึ่งในเกมใหม่ที่ดึงดูดความสนใจของนักวิเคราะห์คือ Sprunki ซึ่งเป็นเกมบนเบราว์เซอร์ที่ใช้จังหวะผสมผสานการโต้ตอบด้วยดนตรีและภาพ ผู้เล่นต้องตีจังหวะให้เข้ากับเสียงที่รวดเร็ว เป็นประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและดึงดูดใจ
การออกแบบที่สดใสเหมือนการ์ตูนและรูปแบบการเล่นที่น่าติดตาม ทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่เด็กๆ ทั้งการค้นหาบนกูเกิลและบนยูทูบ ด้วย โดยที่ Sprunki ติดอันดับห้าหัวข้อเกมที่ถูกค้นหามากที่สุด ร่วมกับเกมยอดนิยมอย่าง Brawl Stars และ Roblox
จากรายงานนี้ ยังพบว่าพฤติกรรมที่คุ้นเคยก็ยังคงมีอยู่มาก กิจกรรมออนไลน์ของเด็กๆ ที่พบบ่อยที่สุด คือการค้นหาแพลตฟอร์มสตรีมมิงบนกูเกิลซึ่งการค้นหาเกือบ 18% เกี่ยวข้องกับการดูวิดีโอ แอปยูทูบ ยังเป็นแอปแอนดรอยด์ที่เด็กๆ ชื่นชอบอย่างชัดเจน
โดยมีสัดส่วนเพิ่มจาก 28.13% เป็น 29.77% ในช่วงปีที่ผ่านมา WhatsApp ขึ้นมาอยู่อันดับสองด้วย 14.72% แซงหน้า TikTok (12.76%) ขณะที่ Snapchat และ Facebook นั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไป เด็กๆ ใช้แอปแชทบ่อยขึ้นเพื่อแชร์ลิงก์ มีมและวิดีโอสั้นกับเพื่อนๆ
‘วิดีโอ -เกม’ ติดโผหัวข้อยอดนิยม
ขณะที่ เนื้อหาวิดีโอและเกมยังเป็นหัวข้อยอดนิยมในการค้นหาของเด็กๆ แพลตฟอร์มอย่าง Netflix, Twitch และ Disney+ มีสัดส่วนการค้นหาจำนวนมาก
แคสเปอร์สกี้ ย้ำว่าแพลตฟอร์มความบันเทิงมักตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ ทั้งนี้ในโลกของเกม เด็กๆ ยังคงชื่นชอบ Roblox, Minecraft และพอร์ทัลบนเบราว์เซอร์อย่าง Poki มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นพอร์ทัลที่ให้เล่นเกมฟรีหลายร้อยเกม ซึ่งเล่นง่าย รวดเร็ว และเข้าถึงได้ทันทีผ่านเบราว์เซอร์
แอนนา ลากินา ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า เทรนด์ในปีนี้แสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมดิจิทัลของเด็กๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว วันหนึ่งเด็กๆ คุยกับบอท AI วันต่อมาเด็กๆ ร้องเพลงมีมของอิตาลีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เบื้องหลังทุกเทรนด์คือโอกาสในการเชื่อมโยงกัน
เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองใช้เวลาทำความเข้าใจว่าลูกๆ กำลังดู เล่น หรือค้นหาอะไร ก็จะเปิดประตูสู่การสนทนาที่มีความหมาย และช่วยสร้างนิสัยดิจิทัลที่ปลอดภัยและไว้วางใจกันมากขึ้น ทั้งแอปสำหรับการเลี้ยงลูกผ่านดิจิทัลนั้นยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ ไม่เพียงแต่ปกป้อง แต่ยังช่วยให้มีส่วนร่วมในครอบครัวอีกด้วย
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / วันที่เผยแพร่ 12 มิถุนายน 2568
Link : https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1184547