
สื่อสิงคโปร์รายงานว่าสงครามบนโลกออนไลน์ยังร้อนระอุ ทั้งจากการแฮกเว็บไซต์รัฐบาล ปล่อยข่าวปลอม โจมตีด้วยสแปม โดยต่างฝ่ายโทษกันไปมาว่าเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเพื่อหวังผลทางจิตวิทยาและการเมือง
สำนักข่าวสเตรทไทม์สของสิงคโปร์ รายงานว่า ไทยและกัมพูชาอาจบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติการปะทะนองเลือดตามแนวชายแดนแล้ว แต่เหล่านักรบไซเบอร์ยังต่อสู้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผ่านการป่วนเว็บไซต์ทางการด้วยถ้อยคำหยาบคาย โจมตีฝ่ายตรงข้ามด้วยสแปมและทำให้เว็บล่ม นอกจากนี้ ยังเกิดกระแสการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน (Disinformation) อย่างหนัก ขณะที่ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา ต่างอ้างว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เริ่มต้นความขัดแย้ง

เครื่องบินหน่วงไฟในเหตุไฟป่าในสหรัฐฯ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาลไทย แถลงเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมว่า ไทยพบการโจมตีทางออนไลน์มากกว่า 500 ล้านครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
การโจมตีเหล่านี้ รวมถึง การสแปมรายงานไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ และการโจมตีแบบดีดอส (DDoS) การโจมตีทางไซเบอร์รูปแบบหนึ่งที่ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้ ผ่านการถล่มเซิร์ฟเวอร์ด้วยข้อมูลและทราฟฟิกจำนวนมากพร้อมกัน
สเตรทไทม์ส รายงานด้วยว่า บัญชีอวตารที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่หลายบัญชีพุ่งเป้าโจมตีผู้ใช้ที่มีชื่อเสียงหรือเพจสื่อในไทยโดยตรง รวมถึง โพสต์บนเฟซบุ๊กของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ที่ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ซึ่งประณามการใช้กำลังของกัมพูชาถูกถล่มด้วยคอมเมนต์มหาศาล โดยหลายความเห็นเป็นข้อความภาษาอังกฤษซ้ำ ๆ กันว่า Queen of drama in Thailand รวมถึง Best Drama Queen of 2025 พร้อมอีโมจิรูปงูและจระเข้ บนอีกโพสต์
บัญชีที่ดูเหมือนบอทยังมีส่วนเผยแพร่และแชร์ข่าวปลอม ทำให้สถานการณ์สับสนยิ่งขึ้น เช่น วิดีโอและภาพจากเหตุการณ์ที่กัมพูชายิงจรวดโจมตีปั๊มน้ำมันในไทย กลับถูกโพสต์พร้อมคำบรรยายว่าเกิดในฝั่งกัมพูชา แม้แต่โพสต์อื่น ๆ รวมถึง โพสต์โดยเพจที่มีเครื่องหมายรับรองของ “เวงสรุน กว๊อก” (Vengsrun Kuoch) นักการเมืองกัมพูชา ที่อ้างว่าไทยใช้อาวุธเคมี แต่ที่จริงเป็นภาพเครื่องบินโปรยสารหน่วงไฟในเหตุไฟป่าในสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ แฮกเกอร์จากทั้งสองฝ่ายยังเจาะระบบเว็บไซต์ของรัฐบาลอีกฝ่าย เพื่อเปลี่ยนเนื้อหาให้เป็นข้อความหรือภาพล้อเลียนด้วย
“สเตรทไทม์ส” ทิ้งท้ายว่าการโจมตีทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยข้อมูลบิดเบือนหรือการโจมตีทางไซเบอร์เต็มรูปแบบเพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานหรือบริการของฝ่ายตรงข้าม ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการทำสงครามยุคใหม่ ในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนนั้น รัฐบาลเคียฟและพันธมิตรกล่าวหามอสโกว่าทำสงครามไซเบอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เพื่อโจมตีระบบไอทีของรัฐบาลและเอกชนทั่วโลก
ที่มา PPTV / วันที่เผยแพร่ 3 สิงหาคม 2568
Link : https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/253966