รู้จักไร่ในเมืองเล็ก ‘ติ้งซี‘ หนึ่งในศูนย์กลางสมุนไพรที่สำคัญที่สุดของจีน ที่ได้รับการต่อยอดสู่ “อุตสาหกรรมสมุนไพรยุคใหม่” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง
หากพูดถึงสมุนไพรจีน ภาพจำของหลายคนอาจยังอยู่ที่ยาจีนตำรับโบราณ กลิ่นยาขม หรือร้านขายยาจีนแบบในหนังจีนกำลังภายในที่เรียงรายด้วยลิ้นชักไม้เก่า ๆ แต่ที่เมือง “ติ้งซี” มณฑลกานซู ประเทศจีน สมุนไพรไม่ได้หยุดอยู่แค่ภูมิปัญญาดั้งเดิม หากแต่ถูกต่อยอดสู่ “อุตสาหกรรมสมุนไพรยุคใหม่” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง
ติ้งซีเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสมุนไพรที่สำคัญที่สุดของจีน ด้วยพื้นที่เพาะปลูกกว่า 12.2 ล้านไร่ ปัจจุบันมีการค้นพบสมุนไพรมากถึง 439 ชนิด และสามารถเพาะปลูกเชิงพาณิชย์ได้ถึง 97 ชนิด หรือคิดเป็น 75% ของสมุนไพรจีนที่ใช้ทั่วไป สมุนไพรขึ้นชื่อของที่นี่ ได้แก่ ตังกุย (Danggui) และ หวงฉี (Huangqi) จากเขตหมิ่นเซี้ยน
จุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมสมุนไพรในติ้งซีเริ่มต้นในช่วงปี พ.ศ. 2503–2513 เมื่อรัฐบาลท้องถิ่นส่งเสริมให้ประชาชนหันมาปลูกสมุนไพรเพื่อสร้างรายได้ ส่งผลให้ในปี 2566 ติ้งซีมีพื้นที่เพาะปลูกถึง 5.3 ล้านไร่ สร้างมูลค่ารวมกว่า 45,400 ล้านหยวน และในปี 2567 พื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นเป็น 5.61 ล้านไร่ โดยกว่า 84.2% เป็นพื้นที่ที่ได้มาตรฐานการผลิต
ยกระดับด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ตั้งแต่ปี 2552 ติ้งซีเริ่มวางแผนพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรอย่างเป็นระบบ โดยใช้อำเภอล่งซีเป็นฐานหลัก มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานระดับสากล
ในขณะเดียวกัน เมืองยังให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ พร้อมทั้งส่งเสริมการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านนโยบายสำคัญอย่าง “แผนพัฒนาอุตสาหกรรมแพทย์แผนจีนฉบับที่ 14” และการเข้าร่วมในยุทธศาสตร์ระดับชาติ เพื่อยกระดับสมุนไพรจีนให้ก้าวทันโลก
งาน Expo แสดงศักยภาพระดับนานาชาติ
ติ้งซีได้แสดงศักยภาพของตนผ่านเวทีระดับนานาชาติอย่าง China (Gansu) Traditional Chinese Medicine Industry Expo ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หลักการ “รัฐบาลนำ ตลาดจัด สังคมร่วม” โดยในงานนี้มีการลงนามความร่วมมือถึง 117 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 203,400 ล้านหยวน
ผู้แทนจากหลายประเทศเข้าร่วมงาน รวมถึงประเทศไทย โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้กล่าวถึงความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย-จีน พร้อมแสดงความหวังที่จะขยายความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในอนาคต
แม้ติ้งซีจะประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น แต่อุตสาหกรรมสมุนไพรจีนยังเผชิญปัญหาหลายด้าน ทั้งศัตรูพืช โรคระบาด การขาดเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัย และการแข่งขันในตลาดที่เข้มข้น เมืองติ้งซีจึงจำเป็นต้องเดินหน้าด้วย นวัตกรรม เทคโนโลยี และการตลาดเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับสมุนไพรจีนให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีมูลค่าสูง และเป็นที่รู้จัก
เมืองติ้งซีกำลังพิสูจน์ว่า สมุนไพรจีนสามารถเติบโตไปพร้อมกับวิทยาศาสตร์ เมื่อภูมิปัญญาโบราณถูกหลอมรวมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก็สามารถสร้างอนาคตใหม่ให้กับทั้งอุตสาหกรรม และสุขภาพของผู้คนทั่วโลก
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ / วันที่เผยแพร่ 19 กรกฎาคม 2568
Link : https://www.bangkokbiznews.com/world/1189902