ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นตัวอย่างอันน่าตกใจของผลกระทบจากสงครามไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นมัลแวร์ Stuxnet ที่ทำลายโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่าน หรือ NotPetya Ransomware ที่ทำให้ท่าเรือทั่วโลกต้องหยุดชะงัก ชี้ให้เห็นว่าในโลกดิจิทัลนั้นไม่มีพรมแดน และการรักษาอธิปไตยของชาติในศตวรรษที่ 21 จึงจำเป็นต้องรวมถึงการปกป้องพื้นที่ออนไลน์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แนวรบข้อมูล: เมื่อโลกออนไลน์กลายเป็นสนามรบจริง
ตัวอย่างที่ชัดเจนในขณะนี้ของ “แนวรบข้อมูล” กำลังเกิดขึ้นในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาในปี 2025 นี้ เพราะนอกจากอาวุธจริงแล้ว โลกออนไลน์ยังกลายเป็นสมรภูมิที่เต็มไปด้วยข่าวจริง ข่าวลวง และการปลุกปั่นกระแสผ่านโซเชียลมีเดีย ผู้ใช้จากทั้งสองประเทศต่างโพสต์คลิป ภาพ และข้อความอ้างเป็นหลักฐานความโหดร้ายหรือการละเมิดสิทธิ ซึ่งหลายครั้งเป็น “ข่าวปลอม” เช่น ข่าวเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมี นอกจากนี้ยังมีการใช้บอทและบัญชีปลอมเพื่อเผยแพร่ข้อความซ้ำ ๆ สร้างความเกลียดชังและความสับสนในสังคมอีกด้วย
แฮกเกอร์: ผู้เล่นสำคัญในสงครามยุคใหม่
บทบาทของแฮกเกอร์ในยุคนี้จึงหลากหลายและทรงพลัง พวกเขาเปรียบเสมือน “ทหารเงา” ที่บางคนทำหน้าที่ปกป้องประเทศ (White Hat) บางคนโจมตีเพื่อผลประโยชน์ (Black Hat) และบางคนเป็นนักเคลื่อนไหวทางอุดมการณ์ (Hacktivist) ที่ใช้การเจาะระบบเพื่อส่งสารทางการเมือง เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นอาวุธในมือทุกคน แฮกเกอร์จึงกลายเป็นผู้เล่นสำคัญที่อาจเปลี่ยนเส้นทางของสงคราม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือแม้แต่กระแสสังคมในวงกว้าง
สิ่งที่ทำให้บทบาทของแฮกเกอร์น่ากลัวคือ พวกเขาสามารถทำลายล้างได้โดยไม่ต้องออกจากห้อง ไม่ทิ้งร่องรอยแบบสงครามในอดีต การโจมตีที่มองไม่เห็นสามารถทำให้โรงพยาบาลหยุดให้บริการ สนามบินควบคุมการบินไม่ได้ ระบบจ่ายไฟล่ม หรือข้อมูลสำคัญของรัฐรั่วไหล และที่สำคัญคือ การโจมตีไซเบอร์ไม่เลือกเป้าหมายว่าเป็นพลเรือนหรือทหาร เพราะทุกคนเชื่อมโยงอยู่ในโครงสร้างดิจิทัลเดียวกันหมด
ภูมิคุ้มกันไซเบอร์: การป้องกันภัยเงียบของชาติ
เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยเงียบ ที่ผลกระทบไม่เงียบเลยนี้ ประเทศไทยได้จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะด้านความมั่นคงไซเบอร์อย่างจริงจัง โดยมี สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) หรือ NCSA เป็นองค์กรหลัก ร่วมกับ ThaiCERT ที่ส่งเสริมให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน มีมาตรการด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้มแข็ง เช่น การอัปเดตระบบ การจำกัดสิทธิ์ การเข้ารหัสข้อมูล และการจำลองสถานการณ์เพื่อทดสอบความพร้อมของระบบ นอกจากนี้ การเสริมสร้าง “ภูมิคุ้มกันไซเบอร์” ในระดับประชาชน โดยส่งเสริมการรู้เท่าทันข้อมูลและการใช้ดิจิทัลอย่างมีสติ ก็เป็นอีกแนวทางสำคัญในการป้องกันความเสียหายในวงกว้าง
พลเมืองไซเบอร์: เกราะป้องกันประเทศยุคใหม่
การปกป้องประเทศในยุคนี้ไม่ได้อยู่แค่ในมือของกองทัพ นักการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเท่านั้น แต่ต้องครอบคลุมถึงนักวิชาการไซเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญข้อมูลดิจิทัล นักวิเคราะห์ภัยคุกคาม และ พลเมืองที่รู้เท่าทัน การรู้ทันข่าวปลอม การตั้งคำถามกับสิ่งที่แชร์ และการเข้าใจเบื้องหลังของข้อมูล จึงกลายเป็น “ภูมิคุ้มกัน” รูปแบบใหม่ของประชาชนในศตวรรษไซเบอร์ และเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังให้กับประชาชนทุกระดับ
นี่คืออีกมุมของสงครามยุคใหม่ ที่ไม่ต้องใช้อาวุธ แต่อาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้
สงครามสมัยใหม่ไม่ได้มีแค่ปืนใหญ่ แต่อาจเริ่มต้นที่คีย์บอร์ด
เขียนโดย อาจารย์ ดร.คณิดา สินใหม ผู้อำนวยการสถาบันทรัพยากรการเรียนรู้และเทคโนโลยีดิจิทัล
อ้างอิง
1. Zetter, K. (2014). Countdown to Zero Day: Stuxnet and the Launch of the World’s First Digital Weapon.
2. Wired. (2018). The Untold Story of NotPetya, the Most Devastating Cyberattack in History. Link
3. Nation Thailand. (2025). Thai authorities debunk fake chemical weapon claims. Link
4. AP News. (2025). Cambodian and Thai leaders hold ceasefire talks. Link
5. สำนักงานไซเบอร์แห่งชาติ (NCSA). (2024). ยุทธศาสตร์และบทบาทด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์. https://www.ncsa.or.th
6. ThaiCERT. (2023). บริการแจ้งเตือนและสนับสนุนเหตุการณ์ด้านไซเบอร์สำหรับหน่วยงานไทย. https://www.thaicert.or.th
7. GovInsider Asia. (2024). Thailand’s Cybersecurity Agency bolsters national cyber resilience with cloud AI tools. Link
ที่มา มหาวิทยาลัยทักษิณ / วันที่เผยแพร่ 30 กรกฏาคม 2568
Link :https://www.tsu.ac.th/home/details.php?id=5365
ในโลกที่ทุกอย่างเชื่อมโยงกันด้วยปลายนิ้ว “สงคราม” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนสนามรบอีกต่อไป แต่ได้แปรเปลี่ยนไปสู่สมรภูมิที่มองไม่เห็นอย่าง “สงครามไซเบอร์” (Cyberwarfare) ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายได้ร้ายแรงไม่แพ้สงครามจริง ตั้งแต่การขโมยข้อมูลสำคัญ ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ไปจนถึงการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารที่สร้างความสับสนวุ่นวายในสังคม เราอาจไม่ได้เห็นการยิงต่อสู้กัน แต่ผลกระทบของสงครามไซเบอร์สามารถหยุดยั้งประเทศทั้งประเทศได้