
พรรคซันเซโตะ ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด กลายเป็นหนึ่งในผู้ชนะการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยได้รับเสียงสนับสนุนจากคำเตือนถึง “การรุกรานเงียบ” ของผู้อพยพ และให้คำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการลดภาษี และการใช้จ่ายด้านสวัสดิการ
พรรคซันเซโตะ ถือกำเนิดบนแพลตฟอร์มยูทูบ ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 และก้าวเข้าสู่การเมืองกระแสหลักด้วยแคมเปญ “ญี่ปุ่นต้องมาก่อน”
“วลีญี่ปุ่นต้องมาก่อนนั้น หมายถึงการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวญี่ปุ่น ด้วยการต่อต้านโลกาภิวัตน์ แต่ผมไม่ได้บอกว่า เราควรแบนชาวต่างชาติโดยสิ้นเชิง หรือชาวต่างชาติทุกคนควรออกไปจากญี่ปุ่น” นายโซเฮ คามิยะ หัวหน้าพรรคซันเซโตะ วัย 47 ปี กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น “นิปปอน เทเลวิชัน” หลังการเลือกตั้ง
อนึ่ง พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ผู้นำญี่ปุ่น และพรรคโคเมอิโตะ ซึ่งเป็นพรรคพันธมิตร มีแนวโน้มที่จะสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง ส่งผลให้พวกเขาเป็นหนี้บุญคุณเสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้านมากขึ้น หลังจากพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่น เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว
“พรรคซันเซโตะ ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกา เพราะกระแสประชานิยม และความรู้สึกต่อต้านต่างชาติ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของพรรคแอลดีพี และอิชิบะ เหนือสิ่งอื่นใด” นายโจชัว วอล์คเกอร์ หัวหน้าองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร “เจแปน โซไซตี” กล่าว
ตามผลสำรวจความคิดเห็นก่อนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาญี่ปุ่น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งร้อยละ 29 กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ว่าประกันสังคม และอัตราการเกิดที่ลดลง เป็นความกังวลใหญ่ที่สุดของพวกเขา ขณะที่ร้อยละ 28 กล่าวว่า พวกเขากังวลเกี่ยวกับราคาข้าวที่พุ่งสูง ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงปีที่ผ่านมา ส่วนประเด็นผู้อพยพอยู่ในอันดับที่ห้าร่วม โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 7 ชี้ไปที่ปัญหานี้
ด้านนักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่า ข้อความของคามิยะ เรียกความสนใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายคนที่รู้สึกไม่พอใจกับเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และสกุลเงินเยนที่อ่อนค่า ซึ่งดึงดูดนัดท่องเที่ยวจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาสินค้าที่ชาวญี่ปุ่นไม่สามารถจ่ายได้ สูงขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ คามิยะ อดีตผู้จัดการซูเปอร์มาร์เกต และครูสอนภาษาอังกฤษ กล่าวก่อนการเลือกตั้งว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจจาก “สไตล์การเมืองที่กล้าหาญ” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ อีกทั้งเขายังถูกเปรียบเทียบกับพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (เอเอฟดี) และพรรคปฏิรูปสหราชอาณาจักร แม้นโยบายประชานิยมฝ่ายขวาจะยังไม่หยั่งรากลึกในญี่ปุ่นก็ตาม
หลังการเลือกตั้ง คามิยะกล่าวว่า เขาวางแผนที่จะทำตามพรรคการเมืองสายประชานิยมในยุโรป โดยสร้างพันธมิตรกับพรรคเล็กอื่น ๆ แทนที่จะทำงานร่วมกับพรรคแอลดีพี ซึ่งครองอำนาจเกือบตลอดช่วงประวัติศาสตร์หลังสงครามของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม การที่พรรคซันเซโตะให้ความสำคัญกับประเด็นการอพยพ ได้เปลี่ยนทิศทางการเมืองของญี่ปุ่นไปทางฝ่ายขวาแล้ว โดยเพียงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้ง รัฐบาลของอิชิบะประกาศจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจชุดใหม่ เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมและพฤติกรรมที่ก่อความวุ่ยวายของชาวต่างชาติ และพรรคแอลดีพียังให้คำมั่นว่าจะตั้งเป้าหมาย “ชาวต่างชาติผิดกฎหมายเป็นศูนย์” ด้วย.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AFP
ที่มา สำนักข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 22 กรกฎาคม 2568
Link : https://www.dailynews.co.th/articles/4937872/