
รัฐบาลวอชิงตันอพยพเจ้าหน้าที่การทูตจำนวนหนึ่งออกจากเลบานอน ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดอย่างหนักในตะวันออกกลาง หลังกองทัพสหรัฐโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ว่าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงเบรุตออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการอพยพเจ้าหน้าที่การทูตซึ่งไม่มีภาระงานสำคัญในเวลานี้ พร้อมทั้งสมาชิกในครอบครัว ให้เดินทางออกจากเลบานอน โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับ “สถานการณ์ด้านความมั่นคงในตะวันออกกลางซึ่งคาดเดาไม่ได้”
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเน้นการเตือนภัยการเดินทางเยือนเลบานอนสำหรับพลเมืองสหรัฐ ยังอยู่ในระดับ “สีแดง” ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด หมายความว่า ชาวอเมริกันไม่ควรเดินทางเยือนเลบานอนอย่างเด็ดขาด
The US State Department has ordered all non-essential personnel and the families of staff at the US Embassy in Lebanon to leave as concerns mount about Iranian retaliation for US strikes in Iran.https://t.co/rjdqYRQIj1 pic.twitter.com/yLD8Ue94Ry
— DW News (@dwnews) June 22, 2025
ด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงแบกแดดทยอยอพยพนักการทูตและสมาชิกในครอบครัว ให้เดินทางออกจากอิรักเพิ่มเติม ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผล “เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับปฏิบัติการ” และ “ท่ามกลางสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งตึงเครียดมากขึ้นเป็นลำดับ”
ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน ได้แก่ นาทานซ์ ฟอร์โดว์ และอิสฟาฮาน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารกับอิสราเอลโดยปริยาย แต่ยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลให้กับหลายฝ่าย เนื่องจากเป็นไปไม่ได้เลยที่อิหร่านจะไม่ตอบโต้ และเป้าหมายเสี่ยงอาจรวมถึง ฐานทัพสหรัฐ และทรัพย์สินทางการทูตและการทหารของสหรัฐในตะวันออกกลาง.
เครดิตภาพ : AFP
ที่มา : สำนักข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 23 มิถุนายน 2568
Link : https://www.dailynews.co.th/news/4843040/