พบใบปลิวถึงชาวมุสลิมที่ทำงานให้รัฐ พบเกลื่อนหมู่บ้าน มัสยิด ในพื้นที่ ยะลา – นราธิวาส อ้างกฎหมายกฎศาสนา ผู้ทรยศต่อปาตานีมีโทษถึงชีวิต หวังข่มขู่มุสลิมอย่าให้ความร่วมมือรัฐ เช่นเดียวกับใบปลิวจ่าหน้าซองข่มขู่ อส.เมื่อปีที่ผ่าน
ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.68 เป็นต้นมา พบการโปรยใบปลิวตามหมู่บ้านและบริเวณมัสยิดในพื้นที่ จ.ยะลา โดยประเมินกันว่าน่าจะกระจายมากถึงเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ ส่วนใน อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ก็มีชาวบ้านพบใบปลิวเช่นกัน
โดยใบปลิวที่ถูกพบเป็นกระดาษขนาด A4 พิมพ์ข้อความภาษาไทย หัวใบปลิวระบุถึง “ผู้ทรยศต่อชาติปัตตานี” และมีเนื้อหากล่าวถึงการทรยศต่อชาติว่าเป็นความผิดร้ายแรงในแทบทุกสังคม ในแง่กฎหมายสากล มีการยกตัวอย่าง เช่น อเมริกา การทรยศต่อรัฐเป็นอาชญากรรมสูงสุด มีโทษถึงประหารชีวิต , อังกฤษ มีโทษประหารชีวิต แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นจำคุก และไทยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113-118 ว่าด้วยความผิดต่อความมั่นคงรัฐ มีโทษประหารชีวิตเช่นกัน
ส่วนในมิติของศาสนาต่างๆ ยังมีการยกทัศนะของศาสนาคริสต์ การทรยศเป็นสิ่งที่ผิดบาป, ศาสนาพุทธ การทรยศเข้าข่ายผิดศีลข้อ 4 การพูดเท็จ เข้าข่ายอกุศลกรรม และศาสนาอิสลาม การทรยศถือว่าเป็น “ฮิราบะฮ์” มีบทลงโทษที่หนักมากตามคัมภัร์อัลกุรอาน
ทั้งยังมีการยกเรื่องการลงโทษผู้ทรยศต่อชาติในประเทศมุสลิมต่างๆ เช่น ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน ปากีสถาน อินโดนิเซีย มาเลเซีย ปาเลสไตน์ ก็มีการลงโทษที่หนักทั้งจำคุกตลอดชีวิตและประหารชีวิต
ตอนท้ายของใบปลิวยังระบุอีกว่า ผู้ที่ทรยศต่อชาติ ต่อแผ่นดิน เป็นอาชญากรรม มีโทษรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิต ซึ่งใน “ปาตานี” (หมายถึงดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นคำเรียกขานของกลุ่มที่อ้างการแยกดินแดน) ก็เช่นกัน หากเตือนแล้วไม่ฟัง ยังก้มกราบเท้าสยามไทยที่เป็นศัตรูของฝ่ายปาตานี เขาผู้นั้นคือผู้ทรยศต่อชาติและศาสนา
ทั้งนี้ หลังจากมีการพบใบปลิวดังกล่าว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ มีเจตนาสื่อสารไปยังพี่น้องมุสลิมปัตตานีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งที่เป็นชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในลักษณะข่มขู่คนมุสลิมด้วยกันที่ให้ความร่วมมือกับรัฐไทย โดยพยายามหยิบยกโทษของการทรยศชาติที่รุนแรงถึงขั้นการประหารชีวิต นำมาอ้างเป็นความชอบในการที่จะกระทำต่อผู้ทรยศ
@@ ปฏิบัติการข่าวสารระลอกใหม่หลังเคยระดมขู่ อส.
สำหรับใบปลิวข่มขู่ชาวมุสลิมด้วยกันในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปีที่ผ่านมา ก็พบมีใบปลิวข่มขู่เช่นเดียวกัน แต่พุ่งเป้าไปยังคนมุสลิมที่ทำงานให้รัฐ โดยเฉพาะสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. โดยมีการนำใบปลิวใส่ซองจดหมาย เขียนชื่อระบุเจาะจงตัว อส. แล้วนำไปวางไว้ในมัสยิดที่เป็นภูมิลำเนาของ อส.ตามที่ระบุชื่อ
เนื้อหาข้อความในใบปลิวมอง อส.เป็นคนทรยศ และเป็นศัตรูกับนักรบปาตานี โดยเสนอทางเลือกให้ลาออก กับมาเป็นสายให้นักรบปาตานี เล่นงานเจ้าหน้าที่
โดยใบปลิวข่มขู่ อส.ถูกพบในหลายพื้นที่แทบจะทุกอำเภอของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมไปถึง 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา
สาเหตุที่ทำให้มีใบปลิวข่มขู่ อส.ออกมาในช่วงปีที่ผ่านมา เพราะ อส.ถูกวางบทบาทให้เป็นกำลังหลักในพื้นที่ที่ต้องมารับช่วงความรับผิดชอบต่อจากทหารหลัก ซึ่งตามแผนจะต้องถอนกำลังและส่งมอบพื้นที่ให้ อส.ในปี 2570
ที่สำคัญ อส.เป็นคนในท้องถิ่นเอง จึงชำนาญพื้นที่ไม่ต่างจากกองกำลังของขบวนการก่อความไม่สงบ ทำให้การเคลื่อนไหวก่อเหตุทำได้ยากขึ้นกว่าตอนที่ทหารเป็นกำลังหลัก
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา / วันที่เผยแพร่ 6 มิถุนายน 2568
Link : https://www.isranews.org/article/south-news/south-slide/138588-treacherouspatani.html