การพบโดรนต้องสงสัย 2 ลำ บรรจุในกล่องขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ดัดแปลงติดตั้งให้กลายเป็น “โดรนทิ้งระเบิด” ซึ่งถูกฝังดินไว้บริเวณใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่บ้านไร่ออก หมู่ 2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อค่ำของวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดรนที่พบเป็นสภาพใหม่เอี่ยม ขนาดใหญ่ แบบ 6 ใบพัด มีอุปกรณ์ดัดแปลงติดตั้งลูกระเบิดขนาด 60 มิลลิเมตร จำนวน 6 ช่อง พร้อมกลไกในการปล่อยลูกระเบิด แม้จะไม่พบวัตถุระเบิดใดๆ แต่ก็สร้างความกังวลใจไม่น้อย
ผนวกกับเมื่อได้ดูคลิปภาพการทำงานของอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งกับตัวโดรน ซึ่งมีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นกลไกการทำงานของอุปกรณ์ ตั้งแต่การติดตั้ง ใส่วัตถุคล้ายลูกระเบิด การบินปล่อยวัตถุลักษณะคล้ายลูกระเบิดทางอากาศ ซึ่งทั้งหมดบังคับจากรีโมทคอนโทรลเพียงตัวเดียว ที่ใช้บังคับโดรนทั้งลำ
ทั้งหมดบ่งชี้ได้ค่อนข้างชัดว่า โดรนที่พบเป็นโดรนดัดแปลงสำหรับทิ้งระเบิด เตรียมไว้ใช้สำหรับโจมตีเป้าหมายทางอากาศ
แม้ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างการรวมรวมข้อมูลและหลักฐานต่างๆ รวมถึงลายนิ้วมือแฝงที่ตรวจพบ เพื่อนำไปขยายผลถึงผู้ที่เป็นเจ้าของ และหาความเชื่อมโยงที่ชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ก็ตาม
@@ ย้อนไทม์ไลน์ “โดรนสอดแนม” สำรวจฐาน จนท. ก่อนโจมตี
สำหรับการใช้โดรนของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะไม่ถึงขั้นมีการนำโดรนทิ้งระเบิดมาใช้ แต่ก็พบการนำโดรนมาใช้ในการสอดแนม หรือบินวนดูฐานที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อมูลความเคลื่อนไหวของในฐานต่างๆ แล้วนำมาวางแผนก่อนบุกโจมตีทางภาคพื้นดิน
อย่างกรณีเหตุการณ์คนร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา จนทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 15 พ.ค.61
โดยก่อนเกิดเหตุโจมตีฐาน ชคต.บาโงยซิแน ประมาณ 2 วัน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้พบเห็นโดรนต้องสงสัยบินวนรอบๆ ฐานในช่วงเวลากลางดึก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่พบและส่งไฟ โดรนดังกล่าวก็บินหนีหายไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.66 เกิดเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) บุดี อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเหตุการณ์นี้ มีข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุโจมตีฐาน เจ้าหน้าที่พบมีโดรนต้องสงสัยทำการบินวนสำรวจรอบๆ ฐานล่วงหน้า
และเมื่อวันที่ 18 พ.ค.66 มีรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส พบเห็นโดรนต้องสงสัยบินวนสำรวจบริเวณหลังโรงพักจะแนะ ซึ่งในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่พยายามใช้ปืนยิงทำลาย แต่ก็พลาดเป้า ยิงไม่ถูก จนทำให้โดรนบินหนีไปได้
จนในปี 67 ก็มีการพบเห็นการใช้โดรนเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบและใช้อาวุธปืนยิงใส่ วัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรน ขณะบินวนเหนือฐานปฏิบัติการ ฉก.ตร.ปัตตานี 923 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี แต่ในตอนเช้ากลับพบวัตถุคล้ายซากว่าวติดหลอดไฟตกอยู่ข้างฐาน ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นวัตถุเดียวกับที่เห็นว่าเป็นโดรนหรือไม่
วันที่ 16 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ที่กำลังเข้าเวรยามหน้าฐานปฏิบัติการสายตรวจบ้านกรือเซะ ต.ยะรัง อ.ยะรัง พบเห็นโดรนต้องสงสัย จำนวน 3 ลำ บินวนสำรวจหน้าฐานฯ จึงใช้อาวุธปืนยิงสกัด แต่โดรนต้องสงสัยทั้ง 3 ลำก็หลบหนีไปได้
@@ กลุ่มป่วนใต้ซุ่มฝึกบิน หวังนำโดรนติดระเบิดทิ้งบอมบ์
นอกจากการใช้โดรนสอดแนมความเคลื่อนไหวเจ้าหน้าที่ตามฐานที่ตั้งต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อวางแผนก่อเหตุโจมตีอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วนั้น ยังพบข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่กำลังฝึกบินโดรน เพื่อพัฒนาจากการสอดแนมมาเป็นการใช้โดรนทิ้งไปป์บอมบ์ใส่ฐานเจ้าหน้าที่
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ข่าวลือ แต่เป็นข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ปรากฏขึ้นในช่วงต้นปี 67 ที่ระบุแหล่งข่าวชัดเจนว่า มาจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน 48
ตามรายงานข่าวอ้างอิงว่า ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวฝั่งประเทศเพื่อนบ้านว่า มีกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบชายแดนใต้ของไทย ระบุชื่อ นายเกรียงไกร (สงวนนามสกุล) กับ นายอิสมาแอ (สงวนนามสกุล) ซึ่งมีชื่ออยู่ใน “ฝ่ายเศรษฐกิจ” ของกลุ่มขบวนการแยกดินแดน ได้ติดต่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินโดรน ซึ่งเป็นกลุ่มใต้ดินจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ให้ไปสอนฝึกบินโดรนในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
สำหรับรูปแบบการบินโดรน จะมีการฝึกการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกับ “ไปป์บอมบ์” ซึ่งเป็น “ระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง” ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในพื้นที่ โดยกิจกรรมฝึกบินและทดสอบการใช้งาน ทำมาประมาณ 2 เดือนแล้ว
การฝึกบินโดรนตามรายงาน คาดว่า เพื่อเตรียมก่อเหตุกับฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยเน้นฐานที่ไม่มีต้นไม้สูง จะได้ง่ายต่อการทิ้งระเบิด หรือฐานปฏิบัติการที่มีกำลังพลจำนวนมาก โดยปักหมุดในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง และ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ราบเป็นส่วนใหญ่
โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวได้รับข้อมูล ก็ได้แจ้งไปยังทุกหน่วย โดยเฉพาะหน่วยกำลังในพื้นที่เสี่ยงตกเป็นเป้าหมาย ให้ยกระดับความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัยบริเวณฐานที่ตั้ง และกำลังพล เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน
จากข้อมูลการพบความเคลื่อนไหวในการใช้โดรนสอดแนมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ที่ผ่านมาหลายๆครั้ง รวมถึงการปรากฏรายงานข่าวกรองทางทหาร ในการฝึกบินโดรนทิ้งระเบิดของกลุ่มขบวนการเพื่อมาใช้ก่อเหตุในพื้นที่ จนมาถึงการพบโดรนขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ดัดแปลงทิ้งระเบิดได้ ถูกมาฝังดินซุกแอบไว้ในพื้นที่
แม้การขยายผลยังไม่ชี้ชัดว่า จะเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบหรือไม่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในวันนี้โดรนที่ติดตั้งอุปกรณ์ทิ้งระเบิดไม่ได้อยู่ในมือของทหารหรือฝ่ายความมั่นคงแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้น
แต่ยังมีกลุ่มหรือขบวนการที่ยังไม่ทราบฝ่าย มีโดรนติดตั้งอุปกรณ์ทิ้งระเบิดอยู่ในครอบครอง เพื่อนำออกมาใช้งานได้เช่นกัน
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา / วันที่เผยแพร่ 15 มิถุนายน 2568
Link : https://www.isranews.org/article/south-news/south-slide/138817-bombingdrone.html