ในที่สุด ความลับของ “แอเรีย 51” ก็ถูกเปิดเผยออกมาจนได้
หน่วยงานที่เปิดเผยความลับที่หลายคนแสวงหามานานนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น “สำนักงานข่าวกรองกลาง” หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาที่เป็นที่รู้จักกันมากกว่าในชื่อย่อว่า “ซีไอเอ” นั่นเองที่ออกมาเปิดเผยว่า ในความเป็นจริงแล้ว แอเรีย 51 ใช้สำหรับทำอะไรกันแน่
“แอเรีย 51” เป็นปริมณฑลทางทหารของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ติดกับ “กรูม เลค” (Groom Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่แห้งเหือดไปแล้วในรัฐเนวาดา เป็นพื้นที่ “ต้องห้าม” ชนิดห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปเด็ดขาด อาณาบริเวณของแอเรีย 51 มีรั้วลวดหนามขึง แสดงตำแหน่งไว้ชัดเจนโดยตลอด
ด้วยความลึกลับชนิดห้ามเข้าเด็ดขาดเช่นนี้ ทำให้ “แอเรีย 51” กลายเป็นเรื่องเล่าลือกันขนานใหญ่ในวงกว้างโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา บ้างก็ว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความสนใจของ “มนุษย์ต่างดาว” ที่แวะเวียนมาสังเกตการณ์อยู่บ่อยครั้ง เรื่อยไปจนถึงเรื่องเล่าตามทฤษฎีสมคบคิดที่ว่า แอเรีย 51 คือสถานที่ที่ทางการอเมริกันนำเอาซากยูเอฟโอและซากมนุษย์ต่างดาวมาเก็บไว้ และตรวจสอบศึกษา ไม่น่าแปลกที่มีรายงานการพบเห็น “ยูเอฟโอ” บริเวณนี้บ่อยๆ และต่อเนื่องกันมานานปีดีดัก
สิ่งที่ช่วยให้ความลึกลับยิ่งลึกลับมากขึ้นก็คือ ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาปฏิบัติการทั้งหมดในพื้นที่แอเรีย 51 จำต้องปกปิดเป็นความลับสุดยอด จนแม้แต่คนในท้องถิ่นเองก็ไม่รู้แม้แต่เค้าเงื่อนใดๆ ทั้งๆ ที่สถานที่นี้อยู่ห่างจากลาสเวกัส พื้นที่ที่มีแสงสีที่สุดของรัฐเนวาดา เพียง 133 กิโลเมตรเท่านั้นเอง
เมื่อมีความลับก็ต้องมีคนอยากไขความลับ ถึงขนาดเมื่อปี 2019 มีการรณรงค์ผ่านเฟซบุ๊กชวนกันไปบุก “แอเรีย 51” ภายใต้คำขวัญปลุกใจที่ว่า “พวกเขาหยุดเราทั้งหมดไม่ได้หรอก” ได้รับการขานรับมากมาย หลายคนถึงกับไปปรากฏตัวจริงๆ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเล็ดลอดเข้าไปภายในได้แม้แต่รายเดียว
ถ้างั้นแอเรีย 51 คืออะไรกันแน่ เป็นของกองทัพไว้สำหรับอะไรกัน?
คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ แอเรีย 51 คือพื้นที่ทดสอบ ทดลองปฏิบัติการของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาที่เข้าครอบครองพื้นที่มาตั้งแต่ทศวรรษ 1950 นั่นแหละ สิ่งที่ทดสอบเป็นหลักมาตั้งแต่ต้นก็คือ เครื่องบินจารกรรม ยู-ทู (U-2 spy plane)
ยู-ทู เป็นเครื่องบินตรวจการณ์ทางทหารจากระดับสูง สูงมากเหนือระดับ 21,300 เมตร เป็นเครื่องบินสอดแนม เก็บรวบรวมข่าวกรองทางทหารที่ปฏิบัติการได้ในทุกสภาพอากาศ
ยู-ทู ระหว่างทดสอบ เป็นความลับสุดยอดทางทหาร การทดสอบที่ต้องทำโดยการบินขึ้น-ลงบ่อยครั้ง เมื่อบวกกับความลึกลับที่ต้องปกปิดเข้มงวด ก็ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่ทำให้มีคนเข้าใจผิด และรายงานว่าเป็นการพบเห็นยูเอฟโออยู่บ่อยๆ ในบริเวณแอเรีย 51
เมื่อปี 2013 มีผู้สื่อข่าวอาศัยกฎหมายว่าด้วยเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสารขอข้อมูลเกี่ยวกับยู-ทู ในข้อมูลดังกล่าวระบุไว้ชัดเจนว่า การทดสอบเครื่องบินนี้ในระดับเพดานบินสูงๆ ส่งผลให้การรายงานการพบเห็นยูเอฟโอเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดข้อมูลที่เผยแพร่ออกมานี้เสริมเอาไว้ด้วยว่า กว่าครึ่งของรายงานการพบเห็นยูเอฟโอ ในช่วงปลายทศวรรษ 1950 จนถึงเกือบตลอดทศวรรษ 1960 ล้วนเป็นผลมาจากการทดสอบการบินของยู-ทู ทั้งสิ้น
ว่ากันว่า ปีกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการบินที่เพดานบินสูงมากของเครื่องบินสอดแนมรุ่นนี้ ทำให้เมื่อจะร่อนลง ต้องยั้งตัวเองให้หยุดนิ่งกลางอากาศอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ยิ่งกลายเป็นเรื่องแปลกและเป็น “ยูเอฟโอ” สำหรับผู้คนในยุคนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ต้องปฏิบัติการที่เพดานบินสูงมากๆ ทำให้นักบินและผู้ช่วยจำเป็นต้องสวมเครื่องแบบพิเศษ ออกแบบมาให้เหมาะสมกับปฏิบัติการในชั้นบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากปกติ คือคล้ายคลึงกับ “ชุดอวกาศ” ยิ่งช่วยให้เสียงเล่าลือว่ามียูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาว สะพัดมากยิ่งขึ้นไปอีก
ทั้งหมดนี้คือคำตอบของคำถามที่ว่า “แอเรีย 51” มีไว้เพื่ออะไรจากซีไอเอ ที่ฟังแล้วอาจ “ธรรมดา” ไปมากสำหรับบรรดาสาวกเอเลี่ยนและยูเอฟโอทั้งหลาย เพราะเป็นแค่เพียงสถานที่ทดสอบเครื่องบินในยุคสงครามเย็น ซึ่งจำเป็นต้องปิดเป็นความลับสุดยอดเท่านั้นเอง
แต่ผู้เขียนขอยืนยันไว้ ณ ที่นี้ว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำถามที่ว่า ยูเอฟโอมีจริงหรือไม่แต่อย่างใดทั้งสิ้นครับ
ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์
ที่มา : สำนักข่าวมติชนออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 12 พฤษภาคม 2568
Link : https://www.matichon.co.th/columnists/news_5176574