“ท่ามกลางความขัดแย้ง และโลกก้าวเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) เติบโตอย่างรวดเร็วและเข้มข้น อาเซียนต้องเผชิญทางแยกระหว่าง “โอกาส” และ “ความเหลื่อมล้ำ”
ผู้นำอาเซียนได้ลงนาม “วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2045” (ASEAN Community Vision 2045) ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จัดขึ้นในวันที่ 26-27 พ.ค. 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ภายใต้แนวคิดหลัก “การมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง และความยั่งยืน” (Inclusivity and Sustainability) วิสัยทัศน์นี้เป็นแผนดำเนินงานที่สำคัญในระยะ 20 ปีต่อจากนี้ของอาเซียน เพื่อขับเคลื่อนอาเซียนสู่การเป็นประชาคมที่ยืดหยุ่น เปี่ยมด้วยนวัตกรรม มีพลวัต และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Resilient, Innovative, Dynamic and People-Centered ASEAN Community)
ภายใต้สถานการณ์โลกที่ยังไม่แน่นอนในปัจจุบัน ทั้งความขัดแย้งทางภูมิเศรษฐกิจระหว่างมหาอำนาจส่งผลต่อเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานโลก ทำให้ประเทศกำลังพัฒนาต้องปรับตัวท่ามกลางความขัดแย้ง และโลกยังก้าวเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) เติบโตอย่างรวดเร็วและเข้มข้น ประเทศสมาชิกอาเซียนกำลังเผชิญทางแยกระหว่าง “โอกาส” และ “ความเหลื่อมล้ำ”
จากรายงาน Technology and Innovation Report 2025 ของอังค์ถัด (UNCTAD) ได้เน้นย้ำว่า AI เป็นเทคโนโลยีระดับเปลี่ยนเกม ที่มีศักยภาพสร้างความมั่งคั่งมหาศาล อาเซียนกำลังเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตเร็วที่สุดในโลก แต่การเปลี่ยนผ่านนี้เกิดขึ้นอย่างไม่เท่าเทียม โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางซึ่งยังขาดการเข้าถึงเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัล รายงานนี้ยังระบุว่า AI จะครองตลาดเทคโนโลยีล้ำสมัยสูงสุดถึง 4.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2033 อย่างไรก็ตาม กว่า 40% ของการลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) ของโลกกระจุกตัวอยู่ในเพียง 100 บริษัท โดยส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐและจีน
สำหรับอาเซียน การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI ยังขาดความพร้อม ทั้ง (1) โครงสร้างพื้นฐาน – โดยอาเซียนยังขาดศูนย์ข้อมูลและกำลังประมวลผลที่จำเป็นสำหรับฝึกและใช้งานโมเดล AI ขั้นสูง (2) ข้อมูล – ที่ยังขาดชุดข้อมูลขนาดใหญ่และในข้อมูลด้านกฎหมาย และ (3) ทักษะ – ซึ่งมีสัดส่วนแรงงานที่มีทักษะด้าน AI น้อยมาก โดยเฉพาะในประเทศที่รายได้ต่ำหรืออยู่ระหว่างการพัฒนา
ยกตัวอย่าง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ยังขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่ เช่น ศูนย์ข้อมูล (Data Centers) และส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ความไม่สมดุลเช่นนี้ทำให้อาเซียนเสี่ยงต่อการตกขบวนเทคโนโลยีในยุคที่เศรษฐกิจต้องอ้างอิงการใช้ข้อมูลจำนวนมาก
อาเซียนตั้งเป้าหมายสู่การเป็นภูมิภาคที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม มีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจให้มากขึ้นและมีความยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2045 เพื่อให้บรรลุการพัฒนาที่ครอบคลุม ทั่วถึง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมรับมือความท้าทายในอนาคต ทั้งในมิติของความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
การพัฒนา AI จะส่งเสริมการดำเนินงานตามเป้าหมายข้างต้นได้เป็นอย่างมาก หากตั้งอยู่บนพื้นฐาน “ความเป็นธรรมและความทั่วถึง” โดยเฉพาะในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การสร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และการเสริมสร้างทุนมนุษย์ผ่านการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ประชาคมอาเซียนสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก พร้อมส่งเสริมความร่วมมือข้ามพรมแดน ทั้งในด้านข้อมูล มาตรฐาน และการควบคุมกำกับ
AI ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอาเซียน โดยเฉพาะในมิติของการบริหารจัดการและการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาสุขภาพและการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ การจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเปราะบางและเสี่ยงภัย ตัวอย่างการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ เช่น การผสาน AI กับเทคโนโลยีอื่น เช่น IoT, 5G และ blockchain เพื่อพัฒนาเกษตรอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ และโครงสร้างพื้นฐานพลังงานหมุนเวียน การส่งเสริมนวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation) รัฐสามารถลงทุนร่วมกับมหาวิทยาลัย สตาร์ทอัพ และบริษัทในประเทศ
การจัดตั้ง ASEAN AI Innovation Hub เพื่อร่วมกันพัฒนาโมเดล AI สาธารณะในภาษาท้องถิ่น สร้าง Sandbox ร่วมในระดับภูมิภาค สำหรับทดลองใช้นวัตกรรม AI ภายใต้กรอบกฎหมายที่ยืดหยุ่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแบบ Green AI ที่ประหยัดพลังงานและคาร์บอนต่ำ และการรวมชุมชนท้องถิ่นในการออกแบบระบบ AI เช่น ระบบคาร์บอนเครดิตดิจิทัลที่เน้นความโปร่งใสและการมีส่วนร่วม
ในระยะ 20 ปีข้างหน้า อาเซียนต้องเผชิญกับความท้าทายและจุดเปลี่ยนที่สำคัญภายใต้ยุคดิจิทัล การสร้าง “ความพร้อมด้าน AI” อย่างรอบด้านคือกุญแจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และลดความเหลื่อมล้ำ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / วันที่เผยแพร่ 27 พฤษภาคม 2568
Link :https://www.bangkokbiznews.com/tech/1182397