สั่งปิดฉุกเฉิน ศูนย์วิจัยเชื้อโรคร้ายแรงสุดในสหรัฐฯ หลังเกิดเหตุรักร้าว ระหว่างสองนักวิจัยที่บานปลายถึงขั้นหนึ่งในนั้นมีการเจาะรูชุดป้องกันของอีกฝ่าย ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของเชื้อไวรัสร้ายแรง นับเป็นหนึ่งในเหตุอื้อฉาวที่สุดของวงการวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ
วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ข่าวเดลีเมล รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์สหรัฐฯ ออกคำสั่งปิด ศูนย์วิจัยบูรณาการ (Integrated Research Facility) ในเมืองเฟรเดอริก รัฐแมริแลนด์ โดยระบุว่า เป็นการพักงานเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักวิจัย เจ้าหน้าที่สัญญาจ้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในศูนย์วิจัย
รายงานข่าวระบุว่า เหตุเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างนักวิจัยชายหญิงคู่หนึ่งที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว โดยฝ่ายหนึ่งได้แอบเจาะชุดป้องกันของอีกฝ่ายในขณะที่ปฏิบัติงานในห้องแล็บระดับ BSL-4 ซึ่งใช้ในการศึกษาพยาธิไวรัสที่ร้ายแรงที่สุดในโลก อาทิน อีโบลา และลาสซา
ขณะนี้ห้องทดลองได้ใช้แม่กุญแจล็อกอุปกรณ์และเชื้อไวรัสทั้งหมดไว้ พร้อมทั้งจำกัดการเข้าถึงเฉพาะบุคลากรที่จำเป็น โดยไม่มีการวิจัยใดๆ ดำเนินการอยู่ในช่วงเวลานี้ ขณะที่ทางด้านดร.คอนนี ชมาลจอห์น ผู้อำนวยการศูนย์ ก็ถูกสั่งให้พักงานชั่วคราว หลังมีข้อกล่าวหาว่าเธอไม่รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงทันทีที่ทราบ
นายไมเคิล โฮลบรูค ผู้อำนวยการร่วมด้านความปลอดภัยสูงของศูนย์ฯ ระบุว่า กำลังเก็บตัวอย่างให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้การศึกษานี้ยังคงมีประโยชน์ และยังไม่มีคำสั่งให้ทำลายสัตว์ทดลองแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยแห่งนี้มีพนักงานประมาณ 168 คน รวมทั้งข้าราชการและผู้รับจ้างสัญญา โดยอยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ และตั้งอยู่ใกล้กับสถาบันวิจัยแพทย์ทหารของกองทัพสหรัฐฯ นับถือเป็นหนึ่งในเพียงสิบกว่าศูนย์ทั่วสหรัฐฯ ที่ได้รับอนุญาตให้ศึกษาพยาธิระดับ BSL-4 ซึ่งเป็นระดับความเสี่ยงสูงสุดในระบบห้องทดลองชีวภาพ.
ที่มา Daily Mail
ที่มา : สำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 15 พฤษภาคม 2568
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2858416