7-16 พฤษภาคม 2025 มีการเยือนระหว่างผู้นำชาติท็อป 3 มหาอำนาจของโลก ทั้งสหรัฐฯ รัสเซีย และจีน ดังนี้…
7-10 พฤษภาคม 2025 นายสี จิ้นผิง เยือนกรุงมอสโกเพื่อฉลองครบรอบ 80 ปี แห่งชัยชนะของโซเวียตเหนือเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนั้นยังมีการหารือความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีน-รัสเซีย คาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงทวิภาคีหลายฉบับระหว่างการเยือน
ที่ไม่ได้แจ้งในกำหนดการ แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้อาจจะสำคัญที่ดันเกิดในห้วงเดียวกัน คือการดำรงตำแหน่งครบ 25 ปีของประธานาธิบดีปูติน ก่อนหน้านั้นปูตินได้รับการแต่งตั้งจากอดีตประธานาธิบดีเยลต์ซินให้เป็นนายกรัฐมนตรี (9 สิงหาคม-31 ธันวาคม 1999) และรักษาการประธานาธิบดี (1 มกราคม-6 พฤษภาคม 2000)
ปูตินดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งของประชาชนครั้งแรกของตนเองของจริงเมื่อ 7 พฤษภาคม 2000 โดยชนะเลือกตั้งได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 52.94 ของผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงชาวรัสเซียทั่วประเทศ
วันที่นายสีไปถึงกรุงมอสโกจึงเป็นวันครบ 25 ปีที่ปูตินครองอำนาจเป็นเบอร์ 1 ของสหพันธรัฐรัสเซีย ความสัมพันธ์ของรัสเซียและจีนแน่นแฟ้นยิ่งนัก การไปเยือนในวาระสำคัญทั้งเรื่องส่วนตัวและระดับประเทศ
ประชากรจีนและรัสเซียรวมกันมากถึง 1,416+146 = 1,562 ล้านคน เป็นตลาดผู้บริโภคภายในของสองประเทศที่ใหญ่มาก ประเทศหนึ่งมีทรัพยากรมากที่สุดในโลก ส่วนอีกประเทศหนึ่งก็เป็นประเทศผู้ผลิตอันดับ 1 ของโลก
จีนและรัสเซียมีพื้นที่ติดกันที่รวมแล้วมากถึง 17,098,242 +9,596,961 = 26,695,203 ตร.กม. ร้อยละ 17.7 ของพื้นที่ผิวดินทั้งหมดบนโลก พลังของสองประเทศรวมกันสร้างความกังวลใจให้สหรัฐฯและสมุนตะวันตก
13-16 พฤษภาคม 2025 นายทรัมป์จะเดินทางไปตะวันออกกลางเพื่อบังคับให้เขาซื้ออาวุธ เอ๊ย ไปเยือนซาอุดีอาระเบีย การ์ตา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทรัมป์จะร่วมการประชุมสุดยอดกับผู้นำสภาความร่วมมืออ่าวอาหรับที่กรุงริยาด เป้าหมายของทรัมป์คือการขายอาวุธ ปัญญาประดิษฐ์ และการลงทุน
สิ่งที่ซ่อนอยู่ในการเยือนตะวันออกกลางของทรัมป์คือ เรื่องของฉนวนกาซา ซึ่งขณะนี้อิสราเอลยึดพื้นที่ไปแล้ว 1 ใน 3 ของฉนวนกาซาทั้งหมด
4 กุมภาพันธ์ 2025 ทรัมป์แถลงการณ์ร่วมกับนายเนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่าสหรัฐฯจะเข้าควบคุมฉนวนกาซา และจะย้ายชาวปาเลสไตน์ 2 ล้านไปอียิปต์และจอร์แดน เพื่อเปิดทางในการพัฒนาฉนวนกาซา (ของสหรัฐฯร่วมกับอิสราเอล) ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก
ทรัมป์จินตนาการให้ชาวโลกได้เห็นภาพว่า หลังจากที่ไล่เจ้าของพื้นที่ชาวปาเลสไตน์ออกไปจากมาตุภูมิของตนเองแล้ว แผ่นดินบริเวณนี้จะเป็นริเวียร่าของตะวันออกกลาง ประกอบด้วยรีสอร์ตหรูและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยทีมงานของทรัมป์ได้เผยแพร่วิดีโอที่สร้างด้วยปัญญาประดิษฐ์ แสดงภาพของฉนวนกาซาที่ถูกพัฒนาใหม่ พร้อมด้วยสัญลักษณ์ของตึกทรัมป์
สีและปูตินเป็นผู้นำที่เคร่งขรึม ไม่พูดเสียงดัง แต่ท่าทีของทั้งสองผู้นำเปล่งอำนาจ มั่นคง เยือกเย็น ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ตรงกันข้ามกับทรัมป์ที่มุ่งแต่จะเอาประโยชน์ ทรัมป์กำลังจะไปเยือนตะวันออกกลางเพื่อขายอาวุธ และข้อเสนอที่จะขับไล่ผู้คนออกจากที่ดินของบรรพบุรุษและสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ของอิสราเอล
สีเดินทางพร้อมมรดกทางภูมิปัญญาที่จะพัฒนาโลกให้สู่ความสงบ มั่นคง สร้างระเบียบโลกใหม่ในทศวรรษต่อไป ที่จะช่วยให้โลกมีมหาอำนาจ 2 ขั้ว คานอำนาจกัน ในขณะที่ทรัมป์เดินทางด้วยข้อเสนอทางอำนาจขั้วเดียว ทรัมป์ต้องการแสดงให้โลกเห็นว่า อเมริกากลับมาแล้วด้วยความยิ่งใหญ่และต้องการเสนอเงื่อนไขกับทุกประเทศในโลกใบนี้ให้ปฏิบัติตาม
สหรัฐฯประกาศแทรกแซงประเทศอื่นด้วยมาตรการทางภาษี กดดันทางด้านเศรษฐกิจ และประกาศใช้กำลังทหาร โดยไม่สนใจการล้ำเส้นในด้านศาสนาและวัฒนธรรมของใคร
จีนและรัสเซียเน้นอธิปไตย ความมั่นคง ความเป็นระเบียบ และความร่วมมือแบบไม่แทรกแซงใคร ทั้งสีและปูตินเดินกลยุทธ์ระยะยาว โดยไม่พูดเสียงดัง แต่ลงมือทำอย่างมุ่งมั่นจริงจัง
ผู้อ่านท่านที่เคารพชอบสไตล์ไหนครับ.
ที่มา : สำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์ / วันที่เผยแพร่ 8 พฤษภาคม 2568
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2856895