มีการเปิดเผยเอกสารลับ 39 ฉบับที่เก็บรักษาไว้โดยหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งเอกสารทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯได้รับรู้และติดตามเหตุการณ์สังหารหมู่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์และฝ่ายซ้ายในอินโดนีเซียนับล้านคน เมื่อช่วงระหว่างปี 1965-1966 แต่เลือกที่จะเงียบเฉย ไม่ได้แสดงท่าทีอย่างใดต่อโศกนาฏกรรมดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการสังหารหมู่ครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 20
เอกสารลับที่ถูกเปิดเผยในครั้งนี้ รวมถึงโทรเลขและรายงานข่าวกรองทางการทูตหลายฉบับ จากสถานทูตสหรัฐฯในกรุงจาการ์ตาและสถานกงสุลสหรัฐฯในอินโดนีเซียในช่วงสงครามเย็น ระหว่างปี 1964-1968 โดยโครงการคลังเอกสารความมั่นคงของชาติแห่งมหาวิทยาลัย จอร์จ วอชิงตัน ในสหรัฐฯ เป็นผู้ผลักดันให้มีการเปิดเผยเอกสารดังกล่าวสู่สาธารณะ
- ฝรั่งเศสเผยเอกสารลับชี้เหตุประหาร “มาตา ฮารี” เมื่อ 100 ปีก่อน
- อินโดนีเซียยอมรับคำขอโทษจากออสเตรเลีย หลังไม่พอใจหลักสูตรฝึกทหาร
เหตุสังหารหมู่ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงสิ้นเดือนกันยายน ปี 1965 หลังมีผู้พยายามก่อรัฐประหารและได้สังหารนายพลในกองทัพอินโดนีเซียไป 6 ราย ความพยายามก่อรัฐประหารที่ล้มเหลวทำให้กองทัพลงมือกวาดล้างขบวนการฝ่ายซ้ายอย่างรุนแรง โดยมีกลุ่มองค์กรอิสลามที่ทรงอิทธิพลเข้าร่วมด้วย สถิติของทางการอินโดนีเซียระบุว่า มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 500,000 คนในการกวาด
รายงานทางโทรเลขฉบับหนึ่งจากเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯในจังหวัดชวาตะวันออก ลงวันที่ 28 ธันวาคม ปี 1965 ระบุว่ามีการนำตัวเหยื่อที่จะถูกสังหารออกจากเขตชุมชน เพื่อนำไปฆ่าแล้วฝังดินไว้ แทนที่จะนำไปทิ้งลงน้ำอย่างที่เคยทำมา รวมทั้งมีการนำตัวเหยื่อไปให้กลุ่มพลเรือนบางส่วนสังหารอีกด้วย
เอกสารอีกฉบับหนึ่งที่เลขานุการเอกของสถานทูตสหรัฐฯในขณะนั้นรวบรวมไว้ ซึ่งลงวันที่ 17 ธันวาคม ปี 1965 เป็นบัญชีรายชื่อพร้อมทั้งข้อมูลรายละเอียดส่วนบุคคลของผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซียทั่วประเทศ โดยมีการบันทึกไว้ว่าแต่ละคนถูกจับกุมหรือถูกสังหารแล้วหรือไม่
รายงานข่าวกรองทางการทูตในเดือนเดียวกันจากสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองเมดานบนเกาะสุมาตราระบุว่า ผู้แสดงธรรมของกลุ่มมูฮัมมาดียะฮ์ซึ่งเป็นองค์กรอิสลาม ได้เที่ยวสั่งสอนผู้คนให้ฆ่าผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์เสีย โดยถือว่าเป็นพันธกิจทางศาสนาที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติ ทั้งยังระบุว่าคอมมิวนิสต์นั้นเป็นพวกนอกรีตชั้นต่ำที่สุด “การทำให้คนเหล่านี้หลั่งเลือดเทียบได้กับการฆ่าไก่เท่านั้น” รายงานระบุเอาไว้
เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯลงความเห็นว่า คำสั่งสอนเช่นนี้เป็นเสมือนการอนุญาตให้มีการเข่นฆ่ากันอย่างกว้างขวาง รายงานทางโทรเลขอีกฉบับหนึ่งระบุว่า ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์ถูกสมาชิกกลุ่มนาฮ์ดาตุล อูลามะ ซึ่งเป็นองค์กรทางศาสนาอีกแห่งหนึ่งสังหารเนื่องจากความขัดแย้งส่วนตัว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์แบรด ซิมป์สัน ผู้อำนวยการโครงการบันทึกเอกสารอินโดนีเซียและติมอร์ตะวันออก หนึ่งในผู้ผลักดันให้มีการเผยเอกสารลับนี้บอกว่า ข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ในเอกสารดังกล่าว ชี้ว่าทางการสหรัฐฯรู้ดีว่ามีผู้คนจำนวนมากถูกสังหาร แต่ท่าทีที่แสดงออกในขณะนั้นคือการเงียบเฉย และไม่พบว่ามีเอกสารบันทึกความเห็นของรัฐบาลสหรัฐฯต่อเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
ปัจจุบันเหตุการณ์สังหารหมู่ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ยังคงเป็นประเด็นต้องห้ามในสังคมอินโดนีเซีย แม้เหตุการณ์จะผ่านมากว่า 50 ปีแล้วก็ตาม ทางกองทัพอินโดนีเซียยังคงต่อต้านการอภิปรายถกเถียงถึงเรื่องนี้อย่างเปิดเผย โดยเมื่อเดือนที่แล้วงานสัมมนาเพื่อรำลึกถึงประเด็นทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวต้องยกเลิก เนื่องจากมีการประท้วงรุนแรงจากกลุ่มองค์กรฝ่ายขวา
Reporting by the BBC’s Rebecca Henschke in Jakarta.
—————————————————–
ที่มา : ฺฺBBC Thai : 18 ตุลาคม 2017
Link : http://www.bbc.com/thai/international-41663989?ocid=wsthai.chat-apps.in-app-msg.line.trial.link1_.auin